กองทุนรวม
บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M75 ชูผลตอบแทน 2.90% ต่อปี


 

บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M75 (KFFIX6M75) อายุประมาณ 6 เดือน  เสนอขายวันที่ 17 - 23  ก.ย. 56 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท  จ่ายผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี   
 
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด  หรือ KSAM เปิดเผยว่า “บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M75(KFFIX6M75) อายุประมาณ          6 เดือน  มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน , สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20%   เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi  Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20%  ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Itau Unibanco S.A (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 20%  ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20%   และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20%  และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน  เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป” 

กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M75(KFFIX6M75) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน  โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน 

“ในส่วนของตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นโดยที่การประมูลตราสารหนี้อายุ 10 ปีในช่วงกลางสัปดาห์มีอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอปริมาณการซื้อสินทรัพย์หลังตัวเลขการจ้างงานออกมาอ่อนแอ  ทั้งนี้ เส้นอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้”นายฉัตรพี กล่าว 

สำหรับตลาดตราสารหนี้ภายในประเทศนั้น นายฉัตรพีกล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลดลงร้อยละ 0.01 – 0.06 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.01 – 0.05  ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงสู่ขยายตัวร้อยละ 3.8 – 4.0 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 4.5 โดยระบุว่าอุปสงค์ในตลาดโลกที่อ่อนแอส่งผลให้การอุปโภคบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลงในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ก.ย. 2556 เวลา : 20:03:34
17-06-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 17, 2025, 9:34 am