อิออน สานต่อความร่วมมือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดแคมเปญ “365 วัน..อิออนให้คุณเติมเต็มความสุขไม่รู้จบ” มอบสิทธิพิเศษเพื่อความสุขแก่ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตอิออนอย่างครอบคลุมมากขึ้นทั้งภาพยนตร์และไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้ากระตุ้นยอดสมัครบัตรเครดิตอิออนรายใหม่เพิ่มเป็น 200,000 รายปี 57 เพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 20% ด้านเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปตั้งเป้ารายได้โต 10-15%


บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด "365 วัน...อิออนให้คุณเติมเต็มความสุขไม่รู้จบ" ซึ่งเป็นการสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)(MAJOR)เป็นปีที่ 2 ให้สิทธิประโยชน์พิเศษมากมายตลอดทั้งปี แก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตอิออน หรือตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ปี 2558 หลังจากการร่วมมือกันในเคมเปญในปีที่แล้ว “สุขได้ทุกวันกับบัตรเครดิตอิออน” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เพียงแต่ปีนี้จะขยายสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งภาพยนตร์และไลฟ์สไตล์
สิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรเครดิตอิออนจะได้รับ อาทิ เมื่อซื้อตั๋วหนังทั้งแบบโรงภาพยนตร์ธรรมดา สามมิติ (3D)และสี่มิติ (4DX) 1 ใบจะได้รับบัตรฟรีทันทีอีก 1 ใบ พร้อมให้ใช้บริการที่คาราโอเกะหรือโบว์ลิ่งของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปได้ถึง 3 ชั่วโมง รวม 3 ครั้งต่อหนึ่งเดือนและสิทธิในการเพลิดเพลินไปกับการเล่นไอซ์สเก็ตที่ซับซีโร่ แบบไม่มีกำหนดชั่วโมงได้อีก 3 ครั้งต่อหนึ่งเดือน เป็นต้น
นายยาซูฮิโกะ คอนโดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของอิออนในปี 2557 นี้จะเน้นการขยายไปในกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังในการใช้จ่าย รวมถึงกลุ่มที่ยกระดับรายได้ขึ้นมา โดยพยายามหาแคมเปญที่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ ดังแคมเปญล่าสุดนี้ที่ คาดว่า จะสามารถกระตุ้นให้มีลูกค้าใหม่ที่ชื่นชอบความบันเทิงมาสมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิตได้อีก 100,000 รายเป็น 200,000 ราย และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรในส่วนนี้เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้วสามารถเพิ่มลูกค้าสมัครบัตรเครดิตอิออนได้มากถึง 100,000 ราย
ทั้งนี้ปัจจุบันอิออนมีสมาชิกที่ถือบัตรอิออนรวมกว่า 6 ล้านใบ ณ สิ้นปี 2556 ที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนเป็นบัตรเครติต 40% และเป็นบัตรสมาชิกอิออน 60% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่หรือราว 60% อยู่ในต่างจังหวัด ส่วนอีก 40% อยู่ในกรุงเทพฯ ในปีนี้คาดว่าจะมียอดเพิ่มเป็นกว่า 7 ล้านใบ โดยคาดว่าจะเป็นสมาชิกต่างจังหวัดมากกว่าครึ่ง และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นเดียวกับปีก่อนๆ

สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของไทยในปัจจุบันไม่ถือว่า ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด โดยเมื่อพิจารณายอดการใช้จ่ายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2556 ยังไม่ได้ลดลง เพิ่งมาปรับลดลงในเดือนมกราคม จากยอดประมาณ 8,000 ล้านบาทมาอยู่ที่ประมาณ 7,900 ล้านบาท แต่คิดว่า สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะคลี่คลายได้ใน 3 เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ดีสถานการณ์การใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงนี้ได้มีการหารือกันแล้วก่อนหน้านี้และเตรียมพร้อมหามาตรการรองรับ ด้วยการเน้นรุกตลาดภูมิภาคเพิ่มขึ้น
ส่วนอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)นั้น ณ ปัจจุบันยังทรงตัวอยู่ในระดับ 3% แต่ในอนาคตอาจจะปรับขึ้นเล็กน้อยในกรอบ 3-4% เพราะฐานลูกค้าในต่างจังหวัดจะเน้นในกลุ่มข้าราชการ รัฐวิสาหกิจและกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานโรงงานที่มีเงินเดือนประจำ
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิตจะมี 3 ระดับ บัตรปกติกำหนดเกณฑ์สำหรับผู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน บัตรโกลด์ 20,000 บาทต่อเดือน และบัตรแพตินั่ม 30,000 บาทต่อเดือน และหากรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือนจะเป็นบัตรสมาชิกหรือบัตรกดเงินสด
นายยาซูฮิโกะกล่าวด้วยว่า ยังมีความเชื่อมั่นประเทศไทย และคาดว่า การดำเนินธุรกิจจะสามารถขยายตัวต่อไปได้ แม้จะมีปัญหาทางการเมืองเนื่องจากอิออนทำธุรกิจในไทยมานานกว่า 20 ปี จึงผ่านประสบการณ์การเมืองไทยมาหลายครั้ง อีกทั้งยังมีผู้บริหารระดับอาวุโสที่คอยดูแลให้คำปรึกษาและดำเนินการอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว
.jpg)
ด้านนายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า ปี 2557 นี้ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 10-15% จากกว่า 8,000 ล้านบาทในปี 2556 โดยมีสัดส่วนรายได้บริษัท เป็นธุรกิจหนัง 70% ที่เหลือเป็นรายได้จากค่าเช่า การลงทุนในบริษัทอื่นๆ และมีเดีย ขณะที่ผลกำไรจะเติบโตสอดพ้องกับรายได้ สำหรับช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ รายได้ธุรกิจหนังเติบโต 13% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ถึงแม้ไม่มีหนังใหม่ ส่วนปัญหาด้านการเมือง มองว่าได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะถึงแม้ว่า สาขาสยาม พารากอนปิด แต่ถ้าหนังดีคนสามารถไปดูรอบนอกได้ เช่น ที่สาขาพระราม 3 เมกะบางนา เอสพลานาด รัชโยธิน เอกมัย และโรงหนังต่างจังหวัดดีมาก สำหรับในต่างจังหวัดยังมีศักยภาพที่จะโตได้อีกมาก
นอกจากนี้ยังเล็งเปิดโรงภาพยนตร์เพิ่มทั่วประเทศและต่างประเทศรวมอีก 40 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 488 แห่ง โดยจะเปิดโรงหนังในกัมพูชา 7-8 โรง พร้อมโบว์ลิ่ง 13 เลน ใช้งบประมาณราว 250-300 ล้านบาท คาดเปิดบริการได้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นการประเดิมรับ AEC ประเทศแรก และเตรียมทำธุรกิจหนังในลาวเป็นประเทศถัดไป
ส่วนประเทศนอกอาเซียน ขณะนี้มีหุ้นอยู่ในโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของอินเดีย 7% ถ้ามีโอกาสจะถือเพิ่มเพราะให้ผลตอบแทนที่ดีมาก ธุรกิจหนังในอินเดียโตเร็วมาก เวลานี้อยู่ระหว่างเจรจาเรื่องราคา นอกจากนี้ยังถือหุ้นในธุรกิจโบว์ลิ่งในอินเดียด้วย โดยเมเจอร์ถือหุ้น 49% สิ้นปี 2557 จะมี 200 เลน จากตอนนี้ มีมากกว่า 100 เลน
ข่าวเด่น