ทีเอ็มบี  รุกเจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัว  ด้วยแนวคิด TMB The Better Family  “ให้คำว่ารัก... ยิ่งใหญ่มากขึ้น” ผ่าน “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทนความห่วงใย”  คุ้มครองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ  20 เท่าของยอดเงินฝากสูงสุด 1 ล้านบาท  เพียงมีเงินในบัญชีขั้นต่ำ 5,000 บาท ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่ม  ตั้งเป้ารับเงินฝาก  1 แสนบัญชีสิ้นปี 57 รับเป้ารวมที่ 1 ล้านบัญชี

ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาด ตามแนวคิด TMB The Better Family  “ให้คำว่ารัก... ยิ่งใหญ่มากขึ้น”  ภายใต้ชื่อ “แคมเปญแทนความห่วงใย” โดยผ่าน “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทนความห่วงใย” (TMB Savings Care Account)โดยมีพลอย ชิดจันทร์ คุณแม่ลูกสาม ร่วมประเดิมเปิดบัญชีสำหรับลูกน้อย พร้อมเปิดตัวเวบไซต์ทีเอ็มบีสำหรับครอบครัวและผู้สนใจเข้าศึกษาข้อมูล http://www.tmbbank.com/family/ และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่เผยแพร่แล้วทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง

นางกาญจนา  โรจวทัญญู หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคลกล่าวว่า  “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทนความห่วงใย” (TMB Savings Care Account) เน้นกลุ่มครอบครัวในช่วงอายุระหว่าง 30-45 ปี ที่มีครอบครัว ซึ่งทีเอ็มบีวิจัยพบว่า มีอยู่มากกว่า 16 ล้านคนทั่วประเทศ ทีมีความต้องการสินค้าที่ตรงใจ   เป็นกลุ่มลูกค้าซึ่งอยากออมเงินไว้ให้ลูกและมีเงินเก็บด้วย  เพราะมีลูกค้าเงินฝากในไทยจำนวนมากทิ้งเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาโดยไม่ได้รับความคุ้มครอง   นับว่า ทีเอ็มบีเป็นธนาคารแห่งแรกในประเทศที่นำเสนอ TMB The Better Family ผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัว

ทั้งนี้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ใหม่ มีข้อดีกว่าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา   ตรงที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุให้ในกรณีเสียชีวิต 20 เท่าของยอดเงินฝากให้เป็นมูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท  เพียงคงเงินในบัญชีขั้นต่ำ 5,000 บาท ขึ้นไป  โดยผู้ออมเงินไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่ม  นอกจากนี้ยังไม่มีข้อกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝากแต่ละครั้งและไม่กำหนดระยะเวลาในการฝาก จึงสามารถถอนได้ตลอด  เพิ่มความคล่องตัวและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว

สำหรับครอบครัวที่มีลูกหลายคน ยังสามารถเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทนความห่วงใยได้มากกว่า 1 บัญชีและสามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ได้มากกว่า 1 คนอีกด้วย  โดยลูกค้าที่เปิดบัญชีตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคมศกนี้ ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป จะได้รับ “สมุดนิทานแทนความห่วงใย”  ที่นำเรื่องราวความห่วงใยในครอบครัวมาร้อยเรียงถ่ายทอดผ่านสมุดนิทานและตัวการ์ตูนป๊อปอัพ  1 เล่มต่อ 1 บัญชี ซึ่งจะมีให้เลือก  4  เรื่อง   

นางกาญจนากล่าวอีกว่า  ตั้งเป้ามียอดเปิดบัญชีออมทรัพย์ใหม่ที่  100,000 บัญชี ณ สิ้นปี 57 โดยคาดหวังเป็นลูกค้าใหม่ ๆ มากกว่าเป็นการโยกย้ายมาจากบัญชีออมทรัพย์เก่า  แต่ยอมรับว่า จะมีการโยกย้ายมาบางส่วน  ส่วนเป้าบัญชีเงินฝากรวมสำหรับปี 2557  ตั้งเป้าไว้ที่   1 ล้านบัญชี  (เป็นส่วนลูกค้ารายใหม่ประมาณ 6 00,000 ราย)  ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้  มียอดเปิดบัญชีเงินฝากแล้วประมาณ  100,000 บัญชีต่อเดือน  ส่วนยอดเงินฝากทั้งหมดของทีเอ็มบีในปัจจุบันอยู่ที่  500,000 ล้านบาท  ในปี 2556 ยอดเงินฝากในส่วนของลูกค้ารายย่อยอยู่ที่ประมาณ 3.7 แสนล้านบาท ในปี 2557 นี้คาดว่า จะอยู่ที่  4.2 แสนล้านบาท  เพิ่มขึ้นประมาณ 50,000 ล้านบาท หรือ 15%

สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคตของทีเอ็มบีจะให้ความสำคัญกับ  E-banking หรือทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตและเอทีเอ็มเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสร้างสาขา อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงตามไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่พบว่า ปัจจุบันการทำธุรกรรมที่มีประมาณ100 ล้านรายการต่อปี โดยมีการทำผ่านสาขาเพียง 20% เท่านั้น แต่การทำธุรกรรมส่วนใหญ่เป็นการทำผ่านทางตู้เอทีเอ็มและทางอินเทอร์เน็ตที่มีสัดส่วนถึง 80%  และในอนาคตอาจเพิ่มเป็น 90%  ส่วนอัตราดอกเบี้ยของทีเอ็มบี ในขณะนี้ถือว่า อยู่ในระดับสูง หากจะมีการเปลี่ยนแปลงคงต้องดูความเคลื่อนไหวของธนาคารขนาดใหญ่และความชัดเจนจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วย