“บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด”  ซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เสียงคุณภาพสูง ที่เรียกว่า  "Hi-Resolution Audio"  หรือ Hi-Res Audio (ไฮ-เรส ออดิโอ) ปล่อยผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ออกมาหลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์เสียงคุณภาพได้ตลอดเวลา เพิ่มอรรถรสในการรับฟัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลง ภาพยนตร์และความบันเทิงอื่นๆ แน่นอนว่า สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้ ได้แก่ "หูฟัง" นั่นเอง ซึ่งโซนี่ได้เปิดตัว “หูฟังไฮเรสออดิโอ” ภายใต้แบรนด์ใหม่ "h.ear" ให้ใช้งานอย่างดูดี มีสไตลกันถึง 3 รุ่น

หูฟังแบบ ไฮเรสออดิโอแบรนด์ “h.ear” ช่วยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสเสียงคุณภาพ เติมเต็มเสียงที่เคยขาดหายด้วยการออกแบบมาอย่างดี มีทั้งหูฟังแบบครอบหู  "h.ear on™" และ หูฟังแบบสอดหู หรือ  “in-ear”  อีก 2  รุ่น

หูฟังแบบครอบหู"h.ear on™"  มีรูปลักษณ์และพื้นผิวสะดุดตา วัสดุและพื้นผิวที่มีลวดลาย มีส่วนประกอบด้านเสียงระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นเสียงความละเอียดสูง ทำให้ได้สัมผัสเสียงดิจิตอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทางโซนี่ระบุว่า เป็นเสียงคุณภาพสูงกว่า MP3 หรือแม้แต่ CD หลายเท่า จนทำให้ได้ยินแม้เสียงลมหายใจและทุกจังหวะกลอง ทุกตัวโน๊ตเลยทีเดียว

การออกแบบที่ผสมผสานความสบายเข้ากับการใช้งานจริง ยังทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและพกพาไปใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลายามต้องการ   
 

สเปคหูฟังแบบครอบหู มีดังนี้

-ดีไซน์และคุณภาพวัสดุระดับพรีเมี่ยม

-น้ำหนัก 220 กรัมไม่รวมสายเคเบิล

-สามารถเข้ากันได้กับสมาร์ทโฟนพร้อมไมค์รีโมทอินไลน์สำหรับการโทรแบบแฮนด์ฟรี  ซึ่งผู้ใช้สามารถรับสายแบบแฮนด์ฟรีและเปลี่ยนแทร็คได้โดยไม่ต้องแตะสมาร์ทโฟน ส่วนไมโครโฟนอินไลน์ทำงานแบบรอบทิศทาง

-ไดรเวอร์ยูนิต 40 มม. ทรงโดม (คอยล์เสียง CCAW)

-การตอบสนองความถี่ (HZ) 5-60000 Hz

-ความยาวสาย ประมาณ 1.2 ม.

หูฟังรุ่นนี้มีให้เลือก 5 สี คือ สีน้ำเงินเวอริเดียน ชมพูบอร์กโดซ์ ดำชาร์โคล์ สีเหลืองไลม์ สีแดงซินเนบาร์ ราคา 6,290 บาท  

สำหรับรุ่น "h.ear in NC™"  Headphones เป็นหูฟังแบบ in-ear คุณภาพเสียงระดับไฮ-เรสโซลูชั่น รุ่นแรกของโลกที่มีการนำเทคโนโลยีป้องกันเสียงรบกวนแบบ Digital Noise Cancelling มาใช้งานกับหูฟังกลุ่มนี้ ซึ่งจะให้ประสบการณ์ฟังเสียงเพลงคุณภาพแบบเต็มๆ โดยมีการฝังแบตเตอรีขนาดเล็กเอาไว้ในตัว เพื่อเป็นขุมพลังในการทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีเซนเซอร์ขจัดเสียงรบกวนและเทคโนโลยีป้องกันเสียงรบกวนอัตโนมัติ (Automatic AI Noise Cancelling technologies) ที่ช่วยกรองเสียงไม่ต้องการออกไป

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงขนาดเล็กเพียง 9 mm เพื่อให้การถ่ายทอดเสียงมีความชัดเจน รื่นหู พร้อมระบบ Beat Response Control ที่มาช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงเบส ควบคุมแรงสั่นของกรวยเสียงให้สอดคล้องกับจังหวะ ความเร็วและแรงของเบสได้อย่างลงตัว รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และ สีแดง ราคา 4,490 บาท

ส่วนรุ่น "h.ear in™" Headphones เป็นหูฟังแบบ in-ear มาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงขนาดเล็ก 9 mm เหมือนกัน พร้อมส่วนของ Beat Response Control ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงเบส มีสีสันสดใสและมีให้เลือกถึง 5 สี เช่นเดียวกันกับหูฟังแบบครอบหูและราคาถูกลงมาหน่อยที่  2,990 บาท

ทั้ง 3 รุ่นนี้วางจำหน่ายแล้ว ผ่านโซนี่สโตร์และตัวแทนจำหน่ายทั่วไป ขณะเดียวกันก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hi-Res Audio ที่โซนี่นำออกสู่ตลาด ซึ่งครอบคลุมกว้างทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ส่วนตัวไปกระทั่งใช้ในรถยนต์ เช่น  วอล์คแมน หูฟัง ลำโพงไร้สาย ชุดเครื่องเสียงขนาดกะทัดรัดและชุดเครื่องเสียงพกพาในรถยนต์รุ่นใหม่อีกหลายรุ่น อาทิ  เครื่องเล่นมีเดียรีซีฟเวอร์ในรถยนต์ โดย RSX-GX9 ถ่ายทอดเสียงเพลงได้อย่างคมชัดในทุกรายละเอียด ด้วยเทคโนโลยี DSD Native Playback ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษครั้งแรกของโลก สำหรับการเล่นไฟล์ระดับ Hi-Res Audio

การดันผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าตลาดหลากหลายเพิ่มขึ้นดังกล่าว ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ทางโซนี่ คาดหวังว่าจะช่วยหนุนให้เติบโตในตลาดกลุ่ม Hi-Res Audio เพิ่มขึ้นในปี 2558 นี้ สอดคล้องกับการลดบทบาทด้านตลาดสมาร์ทโฟนลงไป ซึ่งการครอบคลุมการใช้งานที่กว้างขึ้นจะนำไปสู่ฐานลูกค้าหน้าใหม่ ดึงกลุ่มคนที่รับรู้ถึงความแตกต่างให้หันมาฟังเพลงคุณภาพเสียงสูงแทนการฟังเสียงแบบเดิมๆ ได้เพิ่มขึ้น

คงต้องจับตามองกันต่อไปว่า โซนี่จะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้สำเร็จหรือไม่ และได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นมามากหรือน้อยอย่างไร