หลังจากจัดทัพธุรกิจค้าปลีกมาพักใหญ่ เริ่มด้วยการให้ บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ในเครือกลุ่มทีซีซีแลนด์ มาดูแลธุรกิจศูนย์การค้าในรูปแบบสแตนอโลน 5 แบรนด์ ประกอบด้วย เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, เกตเวย์, เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์, พันธุ์ทิพย์ และบ็อกซ์ สเปซ  ล่าสุด นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัททีซีซี กรุ๊ป ได้ก่อตั้ง บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด มาทำหน้าที่ดูแลธุรกิจศูนย์การค้าที่ในอยู่ภายในคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ ซึ่งในอนาคตนายเจริญ มีแผนที่จะก่อสร้างอีกหลายแห่ง

               

สำหรับโครงการคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ คือ โครงการเทพประทาน ใกล้กับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ,โครงการสามย่าน และโครงการที่ดินเตรียมทหารเดิม หรือสวนลุมไนท์บาร์ซาร์เก่า ซึ่งโครงการหลังสุดถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากมีที่ดินที่รอการพัฒนามากถึง 80 ไร่ จึงทำให้นายเจริญ ต้องเตรียมความพร้อมให้รอบด้าน

โดยในส่วนของธุรกิจค้าปลีกที่จะอยู่ภายในคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่นั้น นายเจริญ ได้มอบหมายให้ นายปณต สิริวัฒนภักดี บุตรชายคนเล็กเป็นผู้คุมทัพใหญ่

ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในด้านของที่อยู่อาศัยและโรงแรมจะให้บุตรสาว คือ นางวัลลภา ไตรโสรัส และบุตรเขย นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส เป็นผู้คุมทัพในธุรกิจดังกล่าว

ส่วนขาธุรกิจค้าปลีก ภายใต้บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอเสท เวิรด์ จำกัด นายเจริญ ได้มอบหมายให้ นายณภัทร เจริญกุล  เป็นแม่ทัพใหญ่ นั่งเป็นกรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านงานใหญ่มาหลายที่ และก่อนที่จะมาอยู่ที่บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ก็ได้นั่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เมโทร มอลล์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงทำให้นายเจริญ มั่นใจให้คุมทัพธุรกิจฝั่งนี้

หลังจากบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ออกมาประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกทั้ง 5 แบรนด์ เพื่อให้มีความทันสมัยและมีบริการที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า เช่น การดึง Snow Town Bangkok เข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นแหล่งสร้างความสุขแห่งใหม่ของครอบครัว นอกจากนี้ ยังมีโซนใหม่ๆ เกิดขึ้น เพื่อเติมเต็มทุกความต้องการ เช่น โซนแฟชั่นสุดฮิปอย่าง Urbano ที่มีการผสมผสานระหว่างแฟชั่น และศิลปะได้อย่างลงตัว โซนสินค้า IT ภายใต้ชื่อ Tech Life เพื่อเติมเต็มชีวิตในโลกเทคโนโลยีให้มากขึ้น และในเดือนธ.ค.นี้ เตรียมที่จะเปิดโซนจำหน่ายอาหารสด อย่างผัก และผลไม้ ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ

เช่นเดียวกับการปรับโฉม ศูนย์การค้าดิจิทัล เกตเวย์ ให้เป็น “เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์” ด้วยการล้างภาพการเป็นศูนย์การค้าไอทีเป็นศูนย์การค้าแฟชั่นและความงามที่ทัยสมัย เพื่อดึงกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนทำงานให้เข้ามาใช้บริการ โดยในส่วนของร้านค้าที่นำมาเป็นแม่เหล็กเรียกลูกค้า คือ การนำร้านค้าไลฟ์สไตล์ชื่อดังระดับประเทศและระดับโลกมาไว้ในที่เดียว เช่น B.duck เป็ดสีเหลืองสัญชาติฮ่องกง ที่มาเปิดตัวในรูปแบบของคอนเทนเนอร์ B.Duck Café สาขาแรกนอกเกาะฮ่องกง เป็นต้น นอกจากนี้ ในส่วนของ True ก็ได้มีการปรับโฉมร้านใหม่ทั้งหมด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Journey“ โดยมีการออกแบบด้านหน้าอาคารที่สวยงามสะดุดตา

อีกหนึ่งแบรนด์ค้าปลีกที่ได้ทยอยปรับโฉมไปแล้ว คือ พันธุ์ทิพย์ เนื่องจากปัจจุบันภาพรวมร้านค้าไอทีมีแนวโน้มชะลอตัว บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จึงต้องการเปลี่ยนรูปแบบทางการค้าของห้างพันธุ์ทิพย์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันแนวคิด Internet of Things เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าแต่ก่อน อุปกรณ์ดีไวซ์ต่างๆ พยายามเชื่อมโยงกับ Community โดยอาศัยสิ่งที่เรามีอยู่ประมาณ 4,000 ล้านชิ้น และในปี 2020 หรือปี 2563 คาดว่าจะเชื่อมต่อถึง 25,000 ล้านชิ้น

ด้วยเหตุนี้ บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเซท เวิรด์ จึงได้มีการนำแนวคิดดังกล่าว มาปรับใช้กับห้างพันธุ์ทิพย์ เริ่มจากการปรับปรุงอาคาร ซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า โดยในปี 2559 พันธุ์ทิพย์พร้อมจะก้าวต่อไปภายใต้แนวคิด 3 words คือ FUN, TRUST และ Tech Life โดยเราจะเพิ่มส่วนผสมสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น  Gaming Zone  ซึ่งเป็น Trend ความสนุกในโลกเสมือน ซึ่งนับวันยิ่งตอบสนองความต้องการเหมือนเป็นส่วนประกอบของชีวิตประจำวัน Startup Business Zone สำหรับนักคิดที่เป็นวัยรุ่น ผู้ที่อยากสร้างสรรค์งานจาก idea ของตนเอง หรือ บริษัท ที่ต้องการ R&D ใหม่ๆ ในการพัฒนา Product สินค้าของตนเอง Co-working space Zone เป็นคำตอบของธุรกิจ Startup ซึ่งมีจุดแตกต่างเรื่อง Share resource Knowledge นักคิดรุ่นใหม่ ต้องการเอาตัวเองไปอยู่ที่ๆ มี Inspiration เพื่อสร้างสรรค์งานของตัวเองออกมา

ส่วนแบรนด์น้องใหม่ บ็อกซ์สเปซ (Box Space) ขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างฐานลูกค้า เนื่องจากเป็นศูนย์การค้าแนวใหม่ที่ต้องการปั้นให้เป็น Community Mall แหล่งพบปะสังสรรค์ของคนเมืองลักษณะ Outdoor ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบ Lifestyle social community โครงการ Box Space เน้น Concept Vibrant Box คือ การนำตู้คอนเทนเนอร์มาใช้เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายในโครงการแบ่งพื้นที่เป็นทั้งหมด 3 โซน คือโซน Market Weekend, Plaza Zone และ Hangout Zone โดยโครงการได้สรรหาร้านค้าเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน

สำหรับ บ็อกซ์ สเปซ สาขาแรกที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในต้นปี 2559  คือ สาขารัชโยธิน ซึ่งหลังจากเปิดสาขาดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นต้นแบบในสาขาที่ 2 ในย่านสรรพวุธ บางนา บนพื้นที่เกือบ 40 ไร่ ติดริมแม่น้ำ โดยในช่วงแรกที่เปิดให้บริการจะเน้นไปที่การจัดกิจกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้รับรู้ในแบรนด์ บ็อกซ์ สเปซ และกระตุ้นให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการ ด้วยการสร้างกระแส Talk of the town talk of Box Space โดยชูความแตกต่างจากศูนย์การค้าฯ อื่นๆ ในเครือ

ด้าน ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ แม้ไม่ได้ปรับปรุงเหมือนกับศูนย์การค้าอื่น แต่ก็มีแผนที่จะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของแผนการขยายธุรกิจค้าปลีกของบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท ในอีก 5 ปีนับจากนี้ มีแผนที่จะใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจค้าปลีกในเครือจำนวน 4 แบรนด์ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเกตเวย์ 3 แห่ง ภายใต้งบลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท ศูนย์การค้าเอเชียทีค ประมาณ 4-5 แห่ง ภายใต้งบลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท และศูนย์การค้าบ็อกซ์สเปซ คาดว่าจะขยายเพิ่ม 3-4 แห่ง ภายใต้งบลงทุน 1,500 ล้านบาท ส่วนศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ยังไม่มีแผนขยายเพิ่ม แต่จะมีแบรนด์ค้าปลีกน้องใหม่เกิดขึ้นรูปแบบของไฮเวย์ ซึ่งจะเป็นค้าปลีกจุดพักรถบนถนนทางหลวง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกาศึกษาทำเลและความต้องการของตลาด โดยในอีก 5  ปีนับจากนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ไม่ต่ำกว่า 5 สาขา

ในด้านของบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีแผนที่ชัดเจนในด้านของการขยายสาขา แต่จากแผนคร่าวๆ ว่า ปีหน้าจะเข้าไปพัฒนาศูนย์การค้าในโครงการเทพประทาน โครงการสามย่าน และโครงการที่ดินเตรียมทหาร ก็น่าจะใช้งบลงทุนหลายหมื่นล้านบาท เนื่องจากแต่ละแห่งเป็นโครงการขนาดใหญ่

อย่างไรก็ดี ในส่วนของโครงการที่เป็นรูปธรรมและเปิดเผยได้แล้วขณะนี้ คือ ศูนย์การค้าเดอะ สตีท รัชดา ภายหลังเช่าที่ต่อจากห้างสรรพสินค้าโรบินสันที่หมดสัญญาไปเป็นระยะเวลา 30 ปี นายเจริญ ก็ทำการเช่าที่ต่อและพัฒนาที่ดินดังกล่าวทันที โดยในส่วนของศูนย์การค้าเดอะ สตรีท จะเป็นศูนย์การค้าแรกที่มีการจัดแบ่งโซน เพื่อเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในย่าน ซึ่งในวันที่ 2 ธ.ค.นี้จะเริ่มทดลองเปิดให้บริการ

จากแนวทางการพัฒนาธุรกิจดังกล่าว เชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ถ้าทุกโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี  ธุรกิจค้าปลีกของตระกูลสิริวัฒนภักดี จะต้องก้าวมาอยู่แถวหน้า และเป็นที่รู้จักเหมือนการทำธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน