ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดข้าวถุงของไทย เนื่องจากปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจของไทยยังไม่ฟื้นตัวในทิศทางที่ดี จึงส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคอยู่ในภาวะชะลอตัวตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในระดับรากหญ้า เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ
จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการข้าวถุงในประเทศไทยต้องออกมาปรับกลยุทธ์ในการทำตลาด ด้วยการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เช่น การลดราคาสินค้า และการจัดโปรโมชั่นแถมข้าวฟรี เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็มีการทำกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภค รวมไปถึงการใช้สื่อออนไลน์เข้ามาช่วยในการสื่อสารการตลาด เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป คือ หันมาให้ความสนใจสื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาปรับตัว เพื่อตามพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ทัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพรวมตลาดข้าวถุงจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่หากมองดูที่ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจข้าวถุงของไทยนั้น ถือว่ายังมีการแข่งขันที่รุนแรง เพราะนอกจากจะเจอปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวแล้ว ผู้ประกอบการข้าวถุงยังต้องประสบปัญหาการแข่งขันของผู้ประกอบการยี่ปั๊วซาปั๊วที่ขายข้าวสารแบบชั่งกิโลขายอีกด้วย
นางโสพรรณ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2558 และต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้ผู้บริโภคในระดับกลางถึงล่างมีกำลังซื้อลดลง ซึ่งในส่วนของบริษัทก็ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทได้จัดแคมเปญ “ความสุขล้นถุง เพิ่มฟรี 500 กรัม” เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของผู้บริโภคและเพิ่มความสุขให้กับคนไทย ด้วยการเพิ่มปริมาณข้าวและลดราคาขายพิเศษ สำหรับผลิตภัณฑ์ 2 ชนิดคือ ข้าวหอมมะลิ 100% คัดพิเศษ ถุงสีม่วง (จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า) และข้าวหอมมะลิทอง 100% ถุงสีทอง (จำหน่ายร้านโชห่วย)
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวนอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นแล้ว ยังถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง เลือกนำมาใช้ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ยังถือเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับนโยบายสานพลังประชารัฐของรัฐบาลที่ต้องการให้ผลประโยชน์สูงสุดตกไปอยู่กับประชาชน
นางโสพรรณ กล่าวต่อว่า บริษัทได้เริ่มจัดกิจกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารทางการตลาดครบ 360 องศาทั้ง Online และ Offline ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือ PC ณ จุดขาย ส่วนช่องทาง Online บริษัทก็มุ่งเน้นการโปรโมทแคมเปญทาง Facebook และ Youtube ด้วยการทำมิวสิควีดีโอสื่อไปยังผู้บริโภค ซึ่งรูปแบบของมิวสิควีดีโอที่ได้จัดทำไปจะเป้นแนวสนุกสนาน โยกตามได้ โดยหลังจากปล่อยมิวสิควีดีโอไปเมื่อช่วงก่อนสงกรานต์พบว่า สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า 8.5 ล้านวิวแล้ว ถือเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมข้าวบรรจุถุงในรอบปีที่ผ่านมา นางพรพรรณ ให้ข้อมูลไว้ว่า มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าที่ใกล้เคียงกับปี 2557 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนภาพรวมรายได้ของข้าวหงษ์ทองในปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ประมาณ 1,700 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 11%
นางพรพรรณ กล่าวอีกว่า แม้ว่าบริษัทจะหันมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการลดราคาสินค้ามากขึ้น แต่บริษัทก็ยังคงคุณภาพของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทานข้าวหอมมะลิคุณภาพดีที่ทั้ง นุ่ม หอม อร่อย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของข้าวหงษ์ทองจะเน้นเจาะไปที่กลุ่มลูกค้าทั้งตลาดระดับบนและตลาดทั่วไป เนื่องจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และจากการที่บริษัทเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องคาดว่าสิ้นปี 2559 จะมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท
ขณะที่ข้าวหงษ์ทองออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของข้าวไก่แจ้เอง ก็ออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ทั้งในส่วนของโมเดิร์นเทรด ร้านอาหาร ภัตตาคาร และร้านค้ายี่ปั๊วซาปั๊ว เนื่องจากปัจจุบันบริษัทจุดอ่อนในด้านของการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มลุกค้าเป้าหมายในหลายพื้นที่
.jpg)
นอกจากนี้ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอีกประมาณ 4 รายการ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิเกรดต่างๆ เช่น ข้าวหอมใบเตย ข้าวหอมมะลิผสม 70% ราคากิโลกรัมละ 150-160 บาท เพื่อรองรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มคนชนชั้นกลางหันมาบริโภคข้าวราคาถูกลง เนื่องจากข้าวหอมมะลิ 100% ที่เคยบริโภคช่วงเศรษฐกิจดีมีราคาขายกิโลกรัมละประมาณ 180-220 บาท ซึ่งนอกจากจะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องแล้วบริษัท สุนทรธัญทรัพย์ ยังมีแผนที่จะใช้งบการตลาดอีกประมาณ 3% ของยอดขาย ใช้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ และการสร้างแบรนด์ข้าวไก่แจ้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
นายธารินทร์ กล่าวว่า การเปิดตัวข้าวบรรจุถุงใหม่เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ บริษัทต้องการรักษาฐานตลาดลูกค้าเก่าให้อยู่กับบริษัทตลอดไป ขณะเดียวกันก็จะขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้บริษัทมียอดขายและมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันข้าวไก่แจ้ยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากนัก และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทต้องหันมาทำการศึกษาตลาดให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
สำหรับแผนการทำตลาดในต่างประเทศนั้น บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ มีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศไปยังตลาดใหม่ๆ ที่บริโภคข้าว เช่น จีน และฮ่องกง จากปัจจุบันได้เริ่มทำสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศบ้างแล้วภายใต้แบรนด์ไก่แจ้ ที่ประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ ฮ่องกง และดูไบ โดยผ่านตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ ซึ่งตัวแทนของแต่ละประเทศก็จะทำหน้าที่กระจายสินค้าไปยังช่องทางการทำตลาดต่างๆ เช่น ค้าปลีก และร้านอาหาร
นายธารินทร์ กล่าวปิดท้ายว่า ภาพรวมตลาดข้าวถุงของไทยยังคงมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการออกมาทำโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การลดราคาสินค้า การให้ส่วนลดท้ายใบเสร็จเมื่อซื้อสินค้าตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ รวมถึงการแถมสินค้า เช่น ซื้อข้าว 100 ถุง แถมข้าวฟรี เพื่อกระตุ้นยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ซึ่งในส่วนของบริษัทหลังจากออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการการอย่างต่อเนื่องคาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ที่มาจากตลาดในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% ซึ่งหลังจากรุกขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้นคาดว่าในอีก 1-2 ปีจะมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 20%
ข่าวเด่น