แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอตัวตามไปด้วย แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้แบรนด์เบโค ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษก็ยังคงมีความมั่นใจที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เนื่องจากมองการดำเนินธุรกิจระยะยาว ประกอบกับอัตราการครอบครองเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเบโค จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เบโค เช้ามาทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทย ถือว่ายังประสบความสำเร็จไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากช่องทางการจำหน่ายสินค้ายังไม่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเบโค ทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยโดยผ่านตัวแทนจำหน่าย จึงทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ในบางพื้นที่เท่านั้น
จากจุดบกพร่องดังกล่าวส่งผลให้ เบโค ต้องหันมาปรับแผนเชิงรุกใหม่ ด้วยการหันมาตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยด้วยตัวเอง เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจและลงทุน โดยล่าสุดได้มีการตั้งบริษัท เบโค(ไทย) จำกัดขึ้นมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทยอย่างจริงจัง
นายจิวลิโอ แอมบรอซซี่ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เบโค (ไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนับจากนี้บริษัทจะเปลี่ยนจากการทำตลาดโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นการดำเนินธุรกิจด้วยตัวเองผ่านบริษัท เบโค (ไทย) จำกัด เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ และให้แนวทางในการทำตลาดเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ของภูมิภาคอาเซียนที่มีการตั้งบริษัทขึ้นมา เพื่อดำเนินธุรกิจด้วยตัวเอง โดย 3 ประเทศที่ได้มีการตั้งบริษัทไปเรียบร้อยแล้วนั้น ประกอบด้วย มาเลเซีย เวียดนาม และไทย
.jpg)
นอกจากนี้ เบโค ยังมีแผนที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิก อาเซียน ยุโรป จีน ตะวันออกกลาง หรือออสเตรเลีย โดลล่าสุด เบโค ได้ใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทยบนพื้นที่รวม 2.7 แสนตร.ม. ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ซึ่งเบื้องต้นจะทำการก่อสร้างโรงงานบนพื้นที่ 1 ใน 3 ของพื้นที่รวม เพื่อสร้างโรงงานผลิตตู้เย็นขนาด 7-15 คิว ทำตลาดในประเทศไทยและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก
เบื้องต้น เบโค คาดการณ์ว่าโรงงานแห่งดังกล่าวน่าจะสามารถผลิตตู้เย็นได้ประมาณปีละ 1 ล้านเครื่องจากกำลังการผลิตทั้งหมดที่สามารถผลิตสินค้าได้ประมาณ 2 ล้านเครื่อง เนื่องจากต้องการทดลองผลการตอบรับของตลาดก่อน แต่หากผู้บริโภคให้การยอมรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้แบรนด์เบโค ดีขึ้น เบโค ก็มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 ล้านเครื่องทันที
นายจิวลิโอ กล่าวต่อว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิก อาเซียน ยุโรป จีน และออสเตรเลีย รวมไปถึงกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ซึ่งหลังจากเริ่มผลิตตู้เย็นไประยะหนึ่ง ในอนาคตบริษัทก็มีแผนที่จะขยายพื้นที่โรงงานแฟ่งดังกล่าว ด้วยการสร้างโรงงานใหม่ เพื่อผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านกลุ่มอื่นๆ เข้าทำตลาดเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นบริษัทได้วางเป้าหมายการผลิตสินค้าในโรงงานแห่งดังกล่าวเพื่อทำตลาดในประเทศไทยไว้ที่ 20% และส่งออก 80%
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อรองรับธุรกิจที่จะขยายตัวในอนาคตแล้ว เบโค ยังให้ความสำคัญในด้านการทำตลาด ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไปนโยบายการทำตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของเบโค จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก
นายจิวลิโอ กล่าวอีกว่า เบโค ประสบความสำเร็จอย่างดีกับการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มประเทศยุโรป ส่งผลให้ปัจจุบัน เบโค เป็นแบรนด์ผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในทวีปยุโรปที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และในปีนี้บริษัทมีความยินดีที่จะประกาศใช้ทราบโดยทั่วกันว่า การสื่อสารการตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เบโค นับจากนี้จะใช้เมสเซสเหมือนกันทั่วโลก คือ “The official partner of the everyday – คู่หูหลักในทุกวันของคุณ” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์เบโคว่า เราอยู่คู่กับผู้คนทั่วโลกในการใช้ชีวิตในทุกๆ วันและในทุกก้าวสำคัญของชีวิต
นอกจากนี้ เบโค ยังจะใช้แบรนด์แมสเซสจากการเป็นผู้สนับสนุนทีมสโมสรบาเซโลนา เป็นหนึ่งในคู่หูหลักของการทำกิจกรรมการตลาดและการสร้างแบรนด์สินค้าของเบโค นับจากนี้ เนื่องจากทีมสโมสรบาเซโลนา สไตล์การเล่นสนุกสนานที่สุดในโลกทีมหนึ่งของประเทศสเปน ซึ่งมีบุคลิกเหมือนกับแบรนด์สินค้าของเบโค
พร้อมกันนี้ เบโค ยังมีแผนที่จะนำสินค้าใหม่ในกลุ่มตู้เย็นเข้ามาทำตลาดจำนวน 8 รุ่น พร้อมกับแนะนำสุดยอดเทคโนโลยีนีโอฟรอสต์ (NeoFrost) ระบบการทำความเย็นในตู้เย็นแบบแยกส่วนที่มีในตู้เย็นเบโคทุกรุ่น เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในอาหารได้มากถึง 95% และคงความสดของอาหารได้ยาวนานขึ้น รวมทั้งมีเทคโนโลยีเอเวอร์เฟรชพลัส (EverFresh+) ช่องแช่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บรักษาความสดของผักได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 วัน ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาด เบโค มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดี
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ เบโค จะยึดหลักในการทำการตลาดนับจากนี้ คือ การชูจุดแข็ง 3 ประการ คือ 1. สมาร์ทโซลูชั่น หรือการมอบทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมีความสะดวกสบายมากขึ้น 2. เทคโนโลยีใหม่ โดย เบโค จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนใหม่ๆเข้าทำตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนองความต้องการของคนยุคใหม่ที่มุ่งมั่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งตัวผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต เพื่อให้แบรนด์สินค้าของเบโคนับจากนี้เป็นแบรนด์ที่เป็นคู่หูหลักในทุกวันของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และ 3 .การเป็นแบรนด์ที่ยืนเคียงข้างผู้บริโภค มีความเข้าใจและรู้ใจผู้บริโภคมากที่สุด
นายจิวลิโอ กล่าวต่อว่า ภายใต้แบรนด์เมสเซจใหม่นี้ บริษัทจะเดินหน้ารุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทยอย่างเป็นทางการนับจากนี้เป็นต้นไป ด้วยการชูจุดแข็งของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ผ่านการทำกิจกรรมการตลาดที่ครอบคลุม 360 องศา โดยในไตรมาส 2 นี้ บริษัทจะประเดิมด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด The official partner of the everyday เพื่อถ่ายทอดความหมายของการเป็น “คู่หูหลักในทุกวันของคุณ” และตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่อยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุกๆ วันในทุกช่วงสำคัญของชีวิต
ขณะเดียวกัน ก็จะทำการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์สินค้าไปยังผู้บริโภคผ่านสื่อโฆษณาในช่องทางต่างๆ เช่น สื่อโฆษณาบนบีทีเอส และสื่อโฆษณาออนไลน์ ด้วยการทำแพลตฟอร์มให้เป็นดิจิตอล ควบคู่ไปกับการทำแคมเปญกับผู้บริโภคยุคใหม่ผ่านสื่อโซเชียล มีเดียยอดฮิตอย่างเฟซบุคและยูทูป ซึ่ง เบโค หวังว่าหลังจากออกมาทำการตลาดอย่างจริงจังในประเทศไทยด้วยตัวเองจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยจนสามารถขึ้นท็อป 3 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในประเทศไทยได้ภายใน 3 ปีนับจากนี้
เป้าหมายความสำเร็จที่ เบโค วางไว้ดังกล่าวนอกจากจะเปิดตัวสินค้าใหม่ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมไปถึงการสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว การปรับโพซิชันนิ่งของกลุ่มเป้าหมายจากระดับบนเป็นระดับกลางถึงบน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าจะช่วยให้ เบค เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่คนไทยรู้จักและซื้อใช้มากขึ้น
ข่าวเด่น