นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี เกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมการแต่งงานในสหรัฐอเมริกา พบว่า คู่สมรสในสหรัฐฯ รวมจำนวนกว่า 2.4 ล้านคู่ จะใช้จ่ายเงินรวมทั้งสิ้นราว 8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ตลาดการแต่งงานมีมูลค่ารวม 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องรวมกว่า 580,000 ธุรกิจ และการจ้างงานกว่า 915,000 คน สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่เป็นผู้ผลิตชุดแต่งงานใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก หรือผลิตได้กว่า 1.8 ล้านชุดต่อปี
คู่บ่าวสาวสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นในงานแต่งงาน ไม่เพียงแต่ชุดแต่งงานและสถานที่จัดงานเท่านั้น แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับแขกที่มาร่วมงานอีกด้วย โดยเกาะแมนฮัตตันในรัฐนิวยอร์กมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการจัดงานแต่งงานสูงที่สุดคือ 82,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่องาน ขณะที่ในเขตมิดเวสต์จัดงานแต่งงานได้ในราคาเฉลี่ยเพียง 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับค่าสถานที่ ค่าตกแต่ง ค่าวงดนตรี ค่าจัดเลี้ยง ค่าการแสดง เป็นต้น
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไทยจะขยายธุรกิจไปยังตลาดงานแต่งงานในสหรัฐฯ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี ได้รวบรวมแนวโน้มที่กำลังจะเป็นที่นิยมดังนี้ สถานที่จัดงานแต่งงานจะไม่ได้จำกัดอยู่ในย่านที่ใกล้กับบ้านคู่บ่าวสาว แต่จะเป็นสถานที่ที่สวยงามหรือน่าประทับใจ อีกทั้งสมาชิกในครอบครัวมักกระจายกันไปอาศัยอยู่ในที่ต่างๆ ทำให้ต้องมีการเดินทางเพื่อไปร่วมงานแต่งงานมากขึ้น งานฉลองสละโสดจะขยายจาก 1 คืนเป็นงานในเมืองตากอากาศช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และงานรับขวัญเจ้าสาวจะจัดขึ้นหลายครั้งตามกลุ่มญาติและเพื่อนของเจ้าสาว
นอกจากนี้จะมีการใช้ชุดแต่งงานหลายชุด เจ้าสาวจะมีชุดสำหรับพิธีทางศาสนาช่วงกลางวัน ชุดสำหรับงานเลี้ยงช่วงกลางคืน และชุดสำหรับงานเต้นรำ ในขณะเดียวกันจะนิยมเสิร์ฟอาหารเมนูอินเทรนด์ เช่น คีนัว หรือเสิร์ฟอาหารบุฟเฟต์สำหรับงานในครอบครัวหรืองานแต่งงานที่มีขนาดเล็ก 50 - 70 คน การ “ฮันนีมูน” จะเพิ่มการหาประสบการณ์แปลกใหม่นอกเหนือจากการท่องเที่ยวหรือพักผ่อน เช่น การตกปลาเพื่อนำมาให้เชฟสอนการปรุงอาหาร หรือเรียนรู้การทำไวน์เพื่อใช้ฉลองในระหว่างฮันนีมูน
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า “วัฒนธรรมของคู่รักชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงทำตามประเพณีโบราณ เชื่อเป็นนัยว่า การมอบของขวัญจากคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด จะเป็นการถ่ายทอดชีวิตการแต่งงานที่มีความสุขมาสู่คู่บ่าวสาว และยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงมิตรภาพและกำลังใจจากญาติสนิทมิตรสหาย อีกทั้งมีความเชื่อทั้งในเรื่องของสีฟ้าคือสัญลักษณ์แห่งความสุข การรับประทานเค้กในงานแต่งงานเพื่อแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ การโยนข้าวเพื่อนำโชคมาสู่คู่บ่าวสาว เป็นต้น
ข่าวเด่น