วิริยะประกันภัย เดินหน้าขยายสาขาและศูนย์บริการสินไหมอย่างต่อเนื่อง พร้อมรุกเพิ่มจุดบริการด้านการรับประกันวินาศภัยอย่างครบวงจร ภายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไทย ล่าสุดเปิดอีก 3 แห่ง ที่เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2  เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา  และเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี พร้อมเตรียมขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีกหลายสาขา เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เผยผลประกอบการ 5 เดือนแรกโต 8.82%

นอกเหนือจากการการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทั้งด้านสินไหมและรับประกัน เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เอาประกันภัยแล้ว บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยังมีนโยบายอย่างชัดเจนและต่อเนื่องในการเพิ่มจำนวนสาขาและศูนย์บริการสินไหมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ อีกทั้ง บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางบริการประกันภัยไปยังห้างสรรพสินค้า ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงในเขตต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการได้ง่ายขึ้น และยังสามารถให้บริการลูกค้าได้นอกเหนือจากเวลาปกติ รวมถึงเปิดให้บริการในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดจุดบริการวิริยะประกันภัย หรือ V-Station ขึ้นในห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ตั้งอยู่ที่ชั้น G (โซนธนาคาร) เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 (โซนธนาคาร) และเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 (โซนธนาคาร) ที่สามารถให้บริการด้านประกันวินาศภัยได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในด้านผลิตภัณฑ์ทั้งมอเตอร์และนอนมอเตอร์ อาทิ ประกันภัยด้านรถยนต์ ประกันภัยด้านอัคคีภัย ประกันภัยด้านทะเลและขนส่ง รวมถึงการให้บริการสอบถามด้านเคลมสินไหม การชำระค่าเบี้ยประกันภัย และอื่นๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีแผนที่ขยายจุดบริการฯ ไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการให้บริการประกันภัยภายในห้างสรรพสินค้านั้น บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการเปิดจุดบริการฯ มาแล้ว 4 แห่งด้วยกัน ได้แก่ เดอะมอลล์บางแค เดอะมอลล์บางกะปิ เดอะมอลล์โคราช และเมกาบางนา และได้มีการปรับปรุงพัฒนาภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย ไปพร้อมกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ปรับปรุง และพัฒนาศักยภาพการบริการ เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “นวัตกรรมบริการประกันภัย 4.0” ที่บริษัทฯ กำลังดำเนินการพัฒนาอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังเป็นการรองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้การบริการในรูปแบบดังกล่าวยังทำให้สามารถเข้าถึงและใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยสนับสนุนการทำงานของตัวแทน ทำให้ผู้เอาประกันภัยเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการใช้บริการผ่านตัวแทนของบริษัทฯ อีกด้วย

บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะพัฒนาการบริการต่างๆ ให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าวิริยะประกันภัยด้วยจำนวนสาขาและศูนย์บริการสินไหม กว่า 140 แห่ง ที่กระจายครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 จังหวัดทั่วประเทศ และจะยังคงเดินหน้าขยายศูนย์บริการสินไหมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว จากเครือข่ายการให้บริการที่ครบวงจรที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ 

ในส่วนผลประกอบการของบริษัทฯ ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-พฤษภาคม 2560) มีอัตตราการเติบโตทุกประเภท 8.82% มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 14,582.56 ล้านบาท  แบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 13,405.67 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.85%  มีอัตราการต่ออายุกรมธรรม์รถยนต์ อยู่ที่ 70%  ในขณะที่งานนอนมอเตอร์มีอัตราการเติบโตสูงถึง 21.27 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 1,176.89 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันอัคคีภัย 121.09 ล้านบาท   การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 151.81 ล้านบาท และที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด 903.99 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตสูงถึง 25.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนงานนอนมอเตอร์ทุกประเภท  พร้อมๆ กับเดินหน้าขยายตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการประกันสุขภาพ เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญและใส่ใจเรื่องการประกันสุขภาพมากขึ้น