กรมสุขภาพจิต แนะผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดูแลความปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังน้ำท่วม หมั่นพูดคุยกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน เพื่อได้ปรับทุกข์ ความเครียดออกไปจากจิตใจ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เบาใจขึ้น และให้ช่วยกันสังเกตเพื่อนบ้านที่ประสบภัยด้วยกัน หากพบมีอาการเศร้าซึม ไม่แจ่มใสร่าเริงเหมือนเดิม ให้รีบเข้าไปพูดคุย ปลอบใจ รับฟังปัญหา หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้แจ้งอสม.หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับการดูแลจิตใจตั้งแต่ต้น ป้องกันเครียดรุนแรง

นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดเพชรบุรี ว่า ในเบื้องต้นมีผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 คน กรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ จ.นครปฐมและศูนย์สุขภาพจิตที่ 5 จ.ราชบุรี จัดทีมจิตแพทย์เอ็มแค็ท( Mental Health Crisis Assessment and treatment team :MCATT ) ร่วมวางแผนการให้บริการร่วมกับทีมจิตแพทย์เอ็มแค็ทจากโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดเพชรบุรีและเขตสุขภาพที่ 5 จำนวน 6 ทีม เพื่อให้การดูแลจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและผู้ป่วยจิตเวชเก่าที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาขาดยา เนื่องจากน้ำท่วม อาจทำให้ยาที่กินประจำสูญหายได้ ในรายที่พบว่ามีปัญหาจิตใจ เช่นเครียดจัด หรือมีอาการซึมเศร้า จะให้การดูแลอย่างต่อเนื่องจนกว่าอาการจะเป็นปกติ
สำหรับในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังน้ำท่วม จัดอยู่ในช่วงฉุกเฉิน ขอให้ประชาชนดูแลด้านความปลอดภัยทางร่างกายให้มาก และต้องไม่ลืมจิตใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในอาการเครียด วิตกกังวล หรือที่เรียกว่ากันกลุ้มใจ เนื่องจากบางคนไม่เคยประสบมาก่อนหรือเคยประสบแต่ไม่รุนแรงเท่านี้ ถือเป็นปฎิกริยาปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ อาการจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ วิธีการที่จะช่วยให้อาการที่กล่าวมาลดน้อยลง แนะนำให้ผู้ประสบภัยด้วยกัน หมั่นพูดคุยไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน อาจคุยกันระหว่างสมาชิกภายในบ้านหรือเพื่อนบ้าน การพูดคุยจะเป็นการช่วยปรับทุกข์ ระบายความเครียดออกไปจากจิตใจได้ จะทำให้เกิดความความรู้สึกเบาใจ สบายใจ เนื่องจากเราไม่ได้เผชิญปัญหาเพียงคนเดียว
ประการสำคัญ ขอให้ผู้ประสบภัยช่วยกันสอดส่องเพื่อนบ้าน คนรู้จัก ที่มีทุกข์ในใจ โดยสังเกตจากอาการที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เงียบซึม เก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่ร่าเริงแจ่มใส หน้าตาเศร้าหมอง หรือดื่มสุรา สูบบุหรี่จัด หากพบขอให้รีบเข้าไปพูดคุย ปลอบใจ และรับฟังปัญหา อย่าทิ้งให้อยู่ตามลำพัง และหากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้แจ้งอสม.หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตได้รับการดูแลที่เหมาะสม ป้องกันความเครียดรุนแรง หรืออาจโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต1323 ฟรี ตลอด24 ชั่วโมง ทั้งนี้การเป็นผู้ให้การช่วยเหลือคนอื่นขณะที่ตนเองก็เป็นผู้ประสบภัยด้วย จะมีผลดี เป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้ตนเอง ช่วยให้จิตใจเกิดพลังเข้มแข็ง สามารถฟื้นตัวก้าวผ่านวิกฤติครั้งไปได้เร็วขึ้น รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว
ข่าวเด่น