แม้ว่าจะเป็นน้องใหม่ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยสำหรับแบรนด์เบโค เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากประเทศตรุกี เนื่องจากเพิ่งรุกทำตลาดในประเทศไทยได้เพียง 2 ปีเท่านั้น และปีนี้กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แต่หากไปในด้านของยอดขายแล้ว พี่ๆที่อยู่ในตลาดมานานอาจมีร้อนๆหนาวๆ เนื่องจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมายอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเบโค มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด นับจากปีแรกที่เข้ามาทำตลาดในปี 2559 เบโค มียอดขายเริ่มต้นอยู่ เพียง 200 ล้านบาทเท่านั้น ต่อมาปี 2560 มียอดขายเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท และในปี 2561 นี้วางเป้าหมายไว้ว่าจะมียอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้ เบโค ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสำหรับการทำตลาดเครื่อใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย หลักๆ ก็น่าจะมาจากคุณภาพของสินค้าที่ เบโค ชูไปที่มาตรฐานยุโรป นอกจากนี้ ยังมีการปรับกลยุทธ์ในด้านของราคาให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงได้ง่าย
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ เบโค ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นหนักไปที่ 2 กลุ่มสินค้าหลักคือ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น ด้วยการชูเทคโนโลยีการใช้งานที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยเป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาด เช่น การเปิดตัวตู้เย็น 4 ประตูที่สามารถแช่ไวน์ได้เข้ามาทำตลาด และการเปิดตัวเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ใช้ระยะเวลาในการซักผ้าเพียง 28 นาที เป็นแม่เหล็กหลักในการดึงความสนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก เพราะกลุ่มคนดังกล่าวจะเปิดใจรับสินค้าใหม่และเทคโนโลยีได้ง่ายกว่ากลุ่มคนรุ่นเก่า

นายพรชัย ตระกูลเตชะเดช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคบริษัท เบโค (ไทย) จำกัดกล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการเดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์สินค้าในประเทศไทย ด้วยการทำกิจกรรมการตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับรู้ถึงคุณสมบัติของเครื่องใช้ไฟฟ้าเบโค ซึ่งเป็นสินค้าสมาร์ท โซลูชั่นคุณภาพระดับยุโรปที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค
ในส่วนของสินค้าใหม่ที่ เบโค จะนำมาทำตลาดปีนี้ ในส่วนของตู้เย็น จะชูไปที่ความโดดของเทคโนโลยี NeoFrostระบบความเย็นแยกส่วนอัจฉริยะ เย็นเร็วขึ้น 2 เท่า สดนานกว่า 3 เท่า อีกทั้งกลิ่นไม่ปะปนกันและ EverFresh+ สุดยอดนวัตกรรมคงความสดของผักและผลไม้ได้นานกว่า 30 วัน ซึ่ง เบโค มั่นใจว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้
นายพรชัย กล่าวต่อว่า บริษัทจะเปิดตัวตู้เย็นสำหรับทุกเซกเมนท์ทั้งสินค้าในกลุ่มพรีเมียม เช่น ตู้เย็น 4 ประตูที่มีช่องแช่ไวน์ ขณะที่กลุ่มแมสพรีเมียม ก็จะนำตู้เย็น 3 ประตู triple cooling ที่มาพร้อมช่อง multi zone ที่เป็นช่องเอนกประสงค์ปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการเป็นทั้งช่องแช่แข็งและแช่เย็น (-18 ถึง 6 องศา) เข้ามาทำตลาด และกลุ่มแมส ก็จะนำตู้เย็น 2ประตู ขนาด 6.5 คิว ขนาดกะทัดรัดด้วยราคาที่จับต้องได้เข้ามาทำตลาด
สำหรับกลุ่มสินค้า เครื่องซักผ้า เบโค จะชูไปที่จุดเด่นโปรแกรมซักด่วน 28 นาที เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เร่งรีบ นอกจากนี้ ยังพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์โมเดิร์น โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ เทคโนโลยี AutoDosing ที่ช่วยคำนวณปริมาณน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มต่อปริมาณผ้าในการซักแต่ละครั้งได้แม่นยำ ช่วยประหยัดเวลาและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากจะให้ความสำคัญกับสินค้านวัตกรรมสุดล้ำที่สนองความต้องการของผู้บริโภคแล้ว เบโค ยังมีแผนที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรด และดีลเลอร์ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศจาก 300 แห่ง เป็น 400 แห่งในปีนี้ ควบคู่ไปกับการลงทุนพัฒนาศักยภาพด้านการขาย ทั้งการเทรนนิ่งพนักงาน และการจัดหน้าร้านให้มี Shop innovation
นอกจากนี้ ยังจะมุ่งเน้นการพัฒนา brand visibility ที่หน้าร้านค้า เพื่อให้โดดเด่น เป็นจุดสนใจต่อลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อสินค้า โดยมีแผนปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีการสื่อถึงประโยชน์ของสินค้าให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อ POP หรือจอดิสเพลย์เพื่อแสดงถึงคุณสมบัติเด่นของแต่ละสินค้าทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และชุดครัว พร้อมเพิ่มสัดส่วนพนักงานขายหน้าร้านมากขึ้นอีก 70% เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และคอยให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพรชัย กล่าวอีกว่า ไฮไลต์เด็ดในปีนี้ บริษัทจะจัดแคมเปญใหญ่ Eat Like A Pro ซึ่งเป็น global แคมเปญเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคเลือกรับประทานอาหารอย่างชาญฉลาด สินค้าไฮไลท์ เช่น เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ระบบสูญญากาศ รวมไปถึงการทำการตลาดตลอดปีนี้ที่จะเน้นไปในส่วนของ ดิจิตัล แพล็ตฟอร์ม โดยเฉพาะกลยุทธ์การใช้ KOLs ในการทำไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ร่วมกับแบรนด์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคหลัก กลุ่มสมาร์ทเจเนอเรชั่น รวมทั้งเปิดตัว Seasonal campaign อย่างต่อเนื่องทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นช่วงหน้าร้อนที่มีแคมเปญ Summer Splash มุ่งเน้นที่สินค้าอย่างตู้เย็นและแอร์ ส่วนช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวจะมีแคมเปญโปรโมตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงนั้นๆ

ด้าน นายแครี่ ฮาร์เตวา ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าในประเทศ บริษัท เบโค (ไทย) จำกัด กล่าวว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวบริษัทมั่นใจว่าสิ้นปี 2561 นี้จะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว หรือคิดเป็นมูลค่าอยู่ที่กว่า 1,000 ล้านบาท หลังจากนั้นภายใน 3 ปีคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท ขึ้นเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า 1 ใน 3 อันดับแรกในประเทศไทยที่มียอดขายมากที่สุด จากปัจจุบันแบรนด์ เบโค อยู่ในอันดับที่ประมาณ 7-8 ของตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยในส่วนของอันดับ 1 เป็นของแบรนด์แอลจี อันดับ 2 เป็นของแบรนด์ซํมซุง อันดับ 3 เป็นของแบรนด์ ชาร์ป และอันดับ 4 เป็นของแบรนด์พานาโซนิค
ข่าวเด่น