หลังจาก บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เข้ามาลงทุนธุรกิจในประเทศไทยพักใหญ่ร่วมกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในรูปแบบของการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนแห่ง 5 แห่งติดแนวรถไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 21,700 ล้านบาท ล่าสุดบริษัท มิตซุย ก็ออกมาแย้มแผนว่ามีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย แม้ว่าการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยจะมีความร้อนแรงก็ตาม
.jpg)
ปัจจุบันบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ เพราะนอกจากจะมีการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม และรีสอร์ทแล้ว ยังมีการพัฒนาโครงการในรูปแบบธุรกิจค้าปลีกอีก 3 ประเภท ประกอบด้วย ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ เอาท์เล็ต มอลล์ และศูนย์การค้า
นายคาซูโอะ อิดะ ผู้จัดการทั่วไป แผนกส่งเสริมการท่องเที่ยว บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง รีเทล เมเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง กล่าวว่า จากนักท่องเที่ยวไทยที่เข้าไปช็อปปิ้งในประเทศญี่ปุ่นกว่า 8 หมื่นคนต่อปี และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.2 แสนคน ทำให้บริษัทมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย แต่ขณะนี้ขอทำการศึกษาตลาด และภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจในประเทศไทยก่อน เนื่องจากการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยค่อนข้างมีความรุนแรง ดังนั้นการจะมาลงทุนธุรกิจในประเทศไทย จึงต้องทำการศึกษาภาพรวมตลาดและการแข่งขันให้ดี
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท มิตซุย ในปีนี้ ล่าสุดได้เตรียมเปิดตัว “มิตซุย เอาท์เล็ท พาร์ค ไถจง พอร์ท” ที่ประเทศไต้หวัน หลังจากก่อนหน้านี้ได้จับมือร่วมกับ บริษัท ซาน ฉง กัง เอาท์เล็ท จำกัด ร่วมทำโครงการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปลายปีนี้
.jpg)
ภายในโครงการ มิตซุย เอาท์เล็ท พาร์ค ไถจง นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนเมืองไถจงแล้ว ยังมีโซนศูนย์อาหารที่รองรับคนได้กว่า 1,000 ที่นั่ง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ เช่น ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ เป้าหมายคือการสร้างโครงการนี้ให้เป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวได้มีกิจกรรมทำได้ตลอดทั้งวัน
นายคาซูโอะ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของพื้นที่ของโครงการมิตซุย เอาท์เล็ท พาร์ค ไถจง พอร์ท คือ ตั้งอยู่ติดกับท่าเรือเฟอร์รี่ไถจง ห่างจากสนามบินไถจงเพียง 9 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้ทั้งเส้นทางหลวง และเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือไถจงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไต้หวัน เพราะเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองดังกล่าวได้จำนวนมาก หรือเฉลี่ยประมาณ 2.2 ล้านคนต่อปี เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นของเมืองไถจง คือ พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างเกาเหม่ย Gaomei Wetlands ซึ่งถือเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในด้านของการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม นอกจากนี้ ยังมีตลาดปลาที่โด่งดังอย่าง Wuci Fishery Harbor โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 1.66 ล้านคนต่อปี ซึ่งแผนการพัฒนาสำหรับพื้นที่แห่งนี้ ได้ยกระดับความคาดหวังในการพัฒนาโครงการอื่นๆ ที่จะตามมา อย่างเช่นแผนการสร้างยอร์ชคลับอยู่ใกล้ๆ และเส้นทางรถบัสรับส่งโดยรอบของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ท่าเรือ
นายคาซูโอะ กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของการเปิดมิตซุย เอาท์เล็ท พาร์ค หลินโค่ว ในเดือนม.ค. ปี 2559 บริษัทได้เชิญร้านญี่ปุ่นจำนวนหลายร้านมาเข้าร่วม และยังมีเแบรนด์แฟชั่นอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับหรู แบรนด์ต่างชาติ แบรนด์กีฬา และแบรนด์ต่างๆ มากมาย เพื่อให้มีผู้เช่าที่หลากหลาย ตามเป้าหมายในการเป็นเอาท์เล็ทที่ครบครันและมีขนาดใหญ่ที่สุดในใจกลางไต้หวัน โดยกลุ่มบริษัทมิตซุย ฟูโดซัง จะใช้ความชำนาญที่มีทั้งหมดจากการพัฒนา การปล่อยเช่า และการดำเนินการกว่า 100 ศูนย์การค้าทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ บริษัท มิตซุย ยังได้ทำการเตรียมเปิดให้บริการ มิตซุย เอาท์เล็ท พาร์ค คิซะระซุ ที่จังหวัดชิบะ หลังจากปิดปรับปรุงไปพักใหญ่ โดยกลับมาครั้งนี้ บริษัท มิตซุย ได้มีการเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น การเพิ่มพื้นที่โซนร้านค้าเป็น 73 ร้านค้า จากเดิมมีเพียง 30 ร้านค้า ส่งผลให้ปัจจุบันภายในโครงการ มิตซุย เอาท์เล็ท พาร์ค คิซะระซุ ที่จะมีร้านค้าเข้ามาเปิดให้บริการทั้งหมด 308 ร้าน ถือเป็นเอาท์เล็ท มอลล์ ชั้นนำที่มีร้านค้ามากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะร้านค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Onitsuka, Kenzo, Mulberry, Breitling, The North Face, FURLA, Kate Spade, Under Amour, Michael Kors, Tory Burch และ GaGa Milano
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงและขยายพื้นที่พักผ่อนภายในเอาท์เล็ทมอลล์ ให้มีบรรยากาศผ่อนคลายเหมือนเดินเล่นอยู่ในรีสอร์ท ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลัก คือ 1. Welcome Hall ห้องโถงต้อนรับลูกค้าด้วยความสะดวกสบาย ผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ท เริ่มจากห้องโถงต้อนรับจะอยู่ที่ตำแหน่งประตูทางเข้าด้านทิศเหนือของพื้นที่ส่วนขยายที่ 3 เพื่อต้อนรับลูกค้า ทั้งสองด้านของห้องโถงเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย รวมถึงการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นของ DEAN & DELUCA, TODAY’S SPECIAL, CIBONE, GEORGE’S by WELCOME MARKET, JAPAN’S SOLE MERCEDES-BENZ OUTLET BOUTIQUE ส่วนพื้นที่ที่เหลือของโถงต้อนรับเป็นที่ตั้งของ DEAN & DELUCA CAFÉ และเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ HAY ของเดนมาร์ก
.jpg)
ขณะที่โซนที่ 2 จะเป็น การ์เด้น เทอเรซ ส่วนพักผ่อนสำหรับลูกค้าระหว่างการช็อปปิ้ง พื้นที่ส่วนนี้จะเน้นเป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการกระตุ้นให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้ง และอยากมาเยี่ยมชมเอาท์เล็ท มอลล์ บ่อยยิ่งขึ้น เนื่องจากมีร้านค้าแบรนด์ดังมากมายไว้คอนต้อนรับ
อีกหนึ่งโครงการที่จะเปิดให้บริการปีนี้ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ คือ มิตซุย ช้อปปิ้ง พาร์ค ลาล่าพอร์ท นาโกย่า มินาโตะ อะควอส โครงการนี้จะมีจุดเด่นในด้านของการเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่รวบรวมร้านค้าหลากหลายรูปแบบไว้ในพื้นที่ ทั้งร้านค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ร้านอาหาร รวมไปถึงความบันเทิงหลากหลายรูปแบบจากทั่วทั้งญี่ปุ่นไว้ ณ ศูนย์การค้าแห่งนี้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แวะเวียนไป
จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัท มิตซุย คาดหวังว่า การเปิดให้บริการของธุรกิจค้าปลีกโครงการใหม่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการขงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ นักท่องเที่ยวชาวไทย
ข่าวเด่น