หลังจากใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งสร้างแบรนด์เบียร์ช้างให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกได้สำเร็จ  บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ก็เดินหน้าลุยสร้างแบรนด์ต่อเนื่องทันที โดยครั้งนี้ได้จับมือกับบริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัด เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ขอส่งแบรนด์เบียร์ไซง่อนที่เพิ่งซื้อมาเมื่อปลายปี 2560 นั่งเป็นสปอนเซอร์สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ควบคู่ไปกับเบียร์ช้าง 

เหตุผลที่ทำให้บริษัท ไทยเบฟฯ เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหลักน่าจะมาจากการที่ภาพรวมตลาดเบียร์ในประเทศไทยปีนี้ยังคงอยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในตลาดต่างจังหวัด  ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเบียร์ช้าง โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาภาพรวมตลาดเบียร์ของไทยการขยายตัวติดลบอยู่ที่ประมาณ 9-10%  จากปัจจุบันตลาดเบียร์มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท  

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจับมือร่วมกับบริษัท คิงเพาเวอร์  เพื่อเข้าเป็นสปอนเซอร์ของทีมสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการสร้างแบรนด์เบียร์ไซง่อนให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก เนื่องจากสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมฟุตบอลยอดนิยมของคนทั่วโลก การที่บริษัทใช้เวทีของทีมสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ จึงถือเป็นใบเบิกทางสำคัญในการสร้างแบรนด์เบียร์ไซง่อนให้คนทั่วโลกได้รู้จัก

การเข้าเป็นสปอนเซอร์ในครั้งนี้ บริษัท ไทยเบฟฯ ได้ใช้โลโก้ของเบียร์ไซง่อน ไปติดอยู่บนแขนเสื้อชุดแข่งทั้ง 3 แบบของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้  ขณะเดียวกัน บริษัท ไทยเบฟฯ ยังได้มีการนำเบียร์ไซง่อนเข้าไปจำหน่ายในสนามดังกล่าว เพื่อให้ต่างชาติได้ทดลองชิมเบียร์อันดับ 1 ของประเทศเวียดนาม

นอกจากนี้ แฟนเลสเตอร์ ซิตี้ และไทยเบฟเวอเรจ สามารถเลือกซื้อชุดแข่งฤดูกาลใหม่ 2018/19 ได้ทั้ง 3 แบบ ชุดแข่งทีมเหย้าสีน้ำเงิน Home Kit ชุดแข่งทีมเยือนสีเทาสุดเท่ห์ Away Kit และชุดแข่งทีมเยือนสีขาว Third Kit ได้แล้วที่ LCFC Store คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา

การออกมาทำการตลาดผ่านกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในครั้งนี้ บริษัท ไทยเบฟฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างแบรนด์เบียร์ไซง่อนให้ทั่วโลกรู้จักได้อย่างแน่นอน หลังจากเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท เบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไซง่อน  (Saigon Beer Alcohol Beverage Corp.) หรือ ซาเบโก  ด้วยการเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 54% ในบริษัทดังกล่าว ซึ่งการเข้าถือหุ้นในครั้งนี้ได้ใช้งบลงทุนไปประมาณ 4.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาท

นายฐาปน กล่าวต่อว่า  การเข้าซื้อกิจการซาเบโก้ในประเทศเวียดนาม ทำให้เบียร์ไซง่อน เข้ามาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเบียร์ของบริษัท  และจากการที่บริษัทมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในประเทศไทย  จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือนำพาสินค้าของบริษัทไปเปิดตลาดถึงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

นอกจากจะนำเบียร์ไซง่อนเข้าไปเปิดตลาดในสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้แล้ว  บริษัท ไทยเบฟฯ ยังได้นำเบียร์ช้างเข้าไปร่วมเป็นสปอนเซอร์ภายในสนามของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้อีกด้วย โดยในส่วนของโลโก้เบียร์ช้างจะมีการติดป้ายโฆษณาภายในสนาม เพื่อสร้างแบรนด์ของเบียร์ช้างให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดยุโรป  

ขณะเดียวกัน ยังได้มีการนำสินค้าภายใต้แบรนด์ช้างเข้าไปจำหน่ายภายในสนามไม่ว่าจะเป็นเบียร์ช้าง น้ำดื่มตราช้าง หรือน้ำแร่ช้าง เพื่อให้แบรนด์ช้างเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคในประเทศอังกฤษ และผู้บริโภคที่เข้าไปชมการแข่งขันภายในสนามของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ 

นายฐาปน กล่าวอีกว่า  บริษัทในฐานะผู้ผลิตเบียร์ช้างในประเทศไทย และเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยมานานกว่า 10 ปี รวมถึงสโมสรต่างๆ ในไทยพรีเมียร์ลีก บริษัทจะมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาฟุตบอลในประเทศไทยพร้อมกับไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  เพราะการทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งไม่ได้เน้นแค่เพียงการสร้างแบรนด์ในตลาดโลกอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยควบคู่กันไป

นอกจากจะมุ่งเน้นในการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศแล้ว บริษัท ไทยเบฟฯ ยังให้ความสำคัญในด้านของการสร้างแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค ด้วยการเดินหน้าสร้าง Brand Top of Mind อย่างต่อเนื่อง

ด้านนายเอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างแบรนด์ “ช้าง” อย่างต่อเนื่อง  ด้วยการเดินหน้ารุกตลาด และสร้าง Engagement กับผู้บริโภค เพื่อพาธุรกิจให้ก้าวสู่เป้าหมาย “Vision 2020” ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเบียร์ในไทย และอาเซียนภายในปี 2020 พร้อมทั้งสร้างให้เป็น Top of mind brand และทำให้ผู้บริโภครักในแบรนด์ ด้วยการนำเสนอสินค้าคุณภาพ รวมถึงความต่อเนื่องในการสร้างประสบการณ์กับแบรนด์  ซึ่งการทำให้แบรนด์เป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค ต้องทำทำภายใต้กลยุทธ์ 3 ข้อนี้ คือ

1. สร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ โดยในปี 2561 เราจะต่อยอดแคมเปญและกิจกรรมการตลาดที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Chang Music Connection, Chang Carnival, Chang Sensory Trials เพราะนี่คือประสบการณ์ที่คนจะได้สัมผัสกับเราได้จริง ไม่ใช่แค่ดูโฆษณา

2. ทำให้ผู้บริโภค Enjoy กับผลิตภัณฑ์ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ เช่น ออกสินค้า Limited Edition ที่เป็นดีไซน์พิเศษ เพื่อเข้ากับโอกาสช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาเบียร์ให้มีรสชาตินุ่มลื่น ดื่มง่ายขึ้น เพื่อในที่สุดแล้วเราต้องการให้ “เบียร์ช้าง” เข้าไปอยู่ในทุกโอกาสการดื่มของผู้บริโภค

และ 3. เดินหน้าเบียร์ช้างตอกย้ำเรื่อง “มิตรภาพ” ภายใต้ Tagline “ช้างเติมเต็มคำว่าเพื่อน” เพราะฉะนั้นทุกโมเมนต์เกี่ยวกับเพื่อน ช้างต้องเข้าไปอยู่ในโมเมนต์เหล่านั้น ดังนั้นจะสังเกตว่าเรามี Pack Size ขวดใหญ่อย่างขวดแชมเปญ หรือบรรจุภัณฑ์ Ice Pack ไม่ใช่สำหรับการดื่มคนเดียว แต่เป็นการแบ่งปัน เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อนให้แข็งแกร่งขึ้น  ซึ่งหลังจากเดินหน้าทำการตลาดภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว บริษัท ไทยเบฟฯ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน