กรมสุขภาพจิต ระดมสมองผู้บริหาร นักวิชาการ ผู้ปฎิบัติงาน ร่วมถอดบทเรียน 5เหตุการณ์วิกฤติฉุกเฉินที่เกิดในรอบ 3 ปี คือ วิกฤติทีมหมูป่าอะคาเดมีติดถ้ำขุนน้ำนางนอน งานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ วิกฤติเขื่อนแตกที่ สปป.ลาว และผีปอบในภาคอีสาน วิกฤติเรือล่มที่ภูเก็ต และวิกฤติระเบิดชายแดนใต้ เพื่อพัฒนาระบบและประสิทธิภาพการเยียวยาใจประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทุกกลุ่มทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดผลกระทบทางจิตใจในระยะยาวสร้างความเชื่อมั่นระบบบริการของไทย
.jpg)
บ่ายวันนี้ (4 กันยายน 2561) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองงวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทีมเยียวยาใจหรือทีมสุขภาพจิตเอ็มแค็ทจากหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิต เพื่อถอดองค์ความรู้ในการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ประสบภาวะวิกฤติ ภัยพิบัติ ซึ่งจัดขั้นที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ จ.สงขลา ว่าวัตถุประสงค์หลักของการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อพัฒนาระบบการจัดการด้านสุขภาพจิตในภาวะเกิดเหตุการณ์วิกฤติฉุกเฉินให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งมี 2 กรณี คือกรณีที่มีผลกระทบกับคนจำนวนมากเช่นเหตุสาธารณภัยต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาจิตใจประชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบสุขภาพจิตในระยะยาว โดยเฉพาะ 4 โรคสำคัญ ได้แก่ โรคเครียดสะเทือนขวัญหรือโรค พีทีเอสดี (Post Traumatic Stress Disaster : PTSD) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นนอนไม่หลับ วิตกกังวล หวาดผวา รวมทั้งการฆ่าตัวตาย โรคทางจิตเวชเช่นซึมเศร้า และการใช้สารเสพติดตามมา ซึ่งหากได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้องตามช่วงความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆ ก็จะลดความเสี่ยงได้ และอีกกรณีที่ไม่ยิ่งหย่อนกันก็คือภาวะฉุกเฉินที่เกิดรายบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่นการจี้ตัวประกัน การกระโดดตึก การปีนเสาไฟ เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีกลไกการเจรจาต่อรองทางจิตวิทยา เพื่อให้ผู้ที่กำลังมีปัญหาได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ลดความสูญเสียได้อย่างทันท่วงที

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า ในการถอดบทเรียนครั้งนี้ ได้ยกสถานการณ์เหตุวิกฤติฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในรอบ 3 ปี ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน 5 สถานการณ์ ให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปัญหาอุปสรรคในการทำงานด้านต่างๆ โดยตรง ได้แก่ วิกฤติทีมหมูป่าอะคาเดมีติดถ้ำขุนน้ำนางนอน งานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ วิกฤติสันเขื่อนแตกที่สปป.ลาวและผีปอบในภาคอีสาน วิกฤติเรือล่มที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และวิกฤติระเบิดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องใช้มาตรการเยียวยาแตกต่างกันสอดคล้องกับผลกระทบ รวมทั้งความเชื่อเฉพาะในท้องถิ่นและวัฒนธรรม และบางกรณืมีเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวข้องด้วยเช่นกรณีน้ำท่วมจากสันเขื่อนแตกที่ สปป.ลาว



ทั้งนี้ประเด็นสำคัญของการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน นอกจากองค์ความรู้การเยียวยาจิตใจ และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ แล้ว จะต้องมีกลไกการจัดการที่เป็นระบบ มีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพ ทั้งในระดับส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัด เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการทำงานระหว่างกรมวิชาการ กับทีมปฏิบัติงานเครือข่ายในพื้นที่ ตั้งแต่เกิดเหตุจนกระทั่งหลังเหตุการณ์เพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิตประชาชนที่ได้รับกระทบทั้งคนไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและทันท่วงทีควบคู่ทั้งทางกายและทางจิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการดูแล โดยได้ให้โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ซึ่งเป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิกฤติสุขภาพจิตของกรมสุขภาพจิตและกองบริหารระบบริการสุขภาพจิต จัดทำเป็นคู่มือแนวทางปฏิบัติงานของกรมสุขภาพจิตแบ่งตามสถานการณ์ระดับความรุนแรง เพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ สู่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งในการปฏิบัติงานช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนต่อไป
ข่าวเด่น