หลังจากออกมาประกาศโครงการ“เมกา ซิตี้”ด้วยการพัฒนาส่วนต่อขยายในเฟสต่างๆอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา2 ปีที่ผ่านมา ศูนย์การค้าเมกา บางนา ก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2561ที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากถึง 46 ล้านคน
จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้ศูนย์การค้าเมกาบางนายังคงเดินหน้าหาแม่เหล็กใหม่ๆเข้ามาให้บริการเพิ่มเติม เพื่อตอกย้ำแนวคิด“Meeting Place”สุดยอดแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่พบปะสังสรรค์ที่เป็นศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัว รองรับทุกเจนเนอเรชั่น ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงกลุ่มคนสูงอายุ ทั้งรับประทานอาหาร ช้อปปิ้งและกิจกรรมสันทนการต่างๆ โดยในปีนี้ศูนย์การค้าเมกา บางนาได้เตรียมทยอยเปิดตัวแม่เหล็กใหม่ด้าน เอ็ดดูเทนเม้นท์ เข้ามาให้บริการเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในศูนย์การค้าเมกาบางนาได้มากกว่าแค่การช้อปปิ้ง
นอกจากนี้ยังถือเป็นการต่อยอดโครงการ“เมกาซิตี้”โปรเจ็คอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ“มิกซ์ยูส”ที่จะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า400 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด เมืองขนาดใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตแบบครบวงจรและรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจในย่านบางนา รวมไปถึงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2,3 และ4 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564นี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ศูนย์การค้าเมกาบางนาได้ใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 67,000 ล้านบาท
น.ส.ปพิตชญา สุวรรณดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนากล่าวว่าในปีนี้ศูนย์การค้าเมกาบางนาจะยังคงตอกย้ำแนวคิดการเป็น “The Great Meeting Place of Eastern Bangkok” เป็นกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อศูนย์การค้าในการมาเพื่อจับจ่ายซื้อของ ให้มาเป็นสถานที่ที่มอบประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับการใช้ชีวิตของผู้คนและทำให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้บริการได้
สำหรับรูปแบบของประสบการณ์ที่ เมกาบางนาจะนำมาเป็นแม่เหล็กหลักในการดึงความสนใจลูกค้าในปีนี้มีอยู่ด้วยกัน3กลุ่ม คือ 1. MEET with Your Shopping Style เมกาบางนานำเสนอประสบการณ์ความเป็น วัน-สต็อป ช้อปปิ้ง (One-Stop Shopping) ด้วยร้านค้ากว่า 900 ร้านค้า ครอบคลุมทุกประเภทสินค้าและไลฟ์สไตล์ สำหรับทุกเจเนอเรชั่น ซึ่งเมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่อยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (Central Business District: CBD)ที่เพียบพร้อมไปด้วยแบรนด์แฟชั่นระดับอินเตอร์เนชั่นแนล แฟลกซิปสโตร์และร้านอาหารยอดนิยมจำนวนมาก
พร้อมกันนี้เมกาบางนายังตอบรับความต้องการของคู่ค้าเดิม ด้วยการขยายพื้นที่ร้านค้าเพิ่มเติม เช่น โฮมโปร ขยายพื้นที่กว่า 10% จากปัจจุบันมีพื้นที่ขายอยู่ที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ขณะที่ร้านEVEANDBOY เองก็มีการย้ายพื้นที่ขายมากกว่า 3 เท่า จากเดิมมีพื้นที่ขายเพียง 500 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีการรองรับแบรนด์ร้านค้าชื่อดังจากออนไลน์ Pomelo และในปี 2019 ยังมีร้านค้าแบรนด์ดังที่จะเตรียมเปิดให้บริการอีกเป็นจำนวนมากกว่า 50 ร้าน อาทิ Teppen, Red Diamond, Vans และ Lamy ที่จะเข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มเติมในปีนี้
2. MEET with Your Favorite Taste เมกาบางนามีความโดดเด่นชัดเจนในด้านการเป็น“ฟู้ด เดสทิเนชั่น”ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งกรุงเทพตะวันออก ด้วยร้านอาหารมากมายให้เลือกสรรถึง 165 ร้าน โดยในปีที่ผ่านมา เมกาบางนาได้เปิดตัวส่วนขยาย “เมกา ฟู้ดวอล์ค” (Mega FoodWalk) ซึ่งเป็นโซนร้านอาหารชื่อดังกว่า 30 ร้าน ทั้งร้านอาหารอร่อยระดับตำนาน ร้านดังขวัญใจนักชิมหรือร้านอร่อยสุดฮิต ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มจำนวนผู้มาเยี่ยมชมศูนย์การค้าได้กว่า 15%
3. MEET with Your Fun Day out ในปีนี้เมกาบางนา เตรียมทยอยเปิดตัวส่วนต่อขยายโซนเอ็ดดูเทนเม้นท์หลายแห่งภายในไตรมาสแรก เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรของลูกค้าทุกกลุ่ม ให้สามารถมาที่ศูนย์ฯแล้วได้มากกว่าการมาช้อปปิ้ง และสามารถใช้เวลาอยู่ภายในศูนย์ได้เกือบตลอดทั้งวัน ได้แก่ เมกาพาร์ค สวนสาธารณะบนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าเป็นพื้นที่สีเขียวและปอดแห่งใหม่ของชาวบางนา ที่มีสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กที่มีมาตรฐานปลอดภัย อาทิ บ้านต้นไม้ น้ำพุ และน้ำตกจำลอง และยังเปิดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ให้สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆได้
นอกจากนี้ยังมีร้าน Pet Club ที่เตรียมเปิดให้บริการในเดือนมิ.ย.นี้ รวมไปถึงการนำ“ฮาร์เบอร์แลนด์”สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่มาเปิดให้บริการบนพื้นที่รวมกว่า 8,500 ตารางเมตร ภายใต้ธีม“Happy Farm ฟาร์มสนุก ความสุขของทุกคนในครอบครัว” ครอบคลุมทุกช่วงวัย พร้อมด้วยคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย โดยใช้ผู้ผลิตเครื่องเล่นชั้นนำระดับโลกพร้อมเปิดให้บริการในเดือนเม.ย.นี้
ในเดือนเดียวกันนี้ยังจะมีการเปิดให้บริการ“มูฟเม้นท์เพลย์กราวด์”โซนกีฬากลางแจ้งกว่า1ไร่ ที่สอดรับกับเทรนด์เอ็กซ์ตรีมสปอร์ตและการแข่งขันรูปแบบนินจาวอริเออร์ ที่เน้นความแข็งแกร่งของร่างกาย และกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น รวมไปถึงการขยายโซนเมกา สมาร์ทคิดส์ ด้วยการเพิ่มโรงเรียนเสริมทักษะความรู้ชั้นนำ เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มครอบครัว อาทิ The Kick, Dance space, Robot’s child, I Can Read!และ Chefu Town, เป็นต้น ทำให้เมกาบางนามีสถาบันกวดวิชาและเสริมทักษะสำหรับเด็กรวมกว่า 17 สถาบัน
นางสาวปพิตชญา กล่าวเพิ่มเติมการเปิดแม็กเนตใหม่ๆ เข้ามาในไตรมาสแรกนี้ นับเป็น การเพิ่มจุดเด่นของเมกาบางนาในด้านของการเป็นศูนย์รวมของเอ็ดดูเทนเม้นท์สำหรับทุกคนในครอบครัวที่ครบวงจรอย่างแท้จริง รวมทั้งได้ประโยชน์ในการเพิ่มทั้งจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในกลุ่มใหม่ๆและเพิ่มระยะเวลาในการเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯได้อย่างครบวงจรและจะส่งผลดีถึงการเพิ่มยอดการใช้จ่ายของลูกค้าภายในศูนย์ต่อไป
นอกจากจะดึงแม่เหล็กใหม่ๆเข้ามาให้บริการแล้ว เมกาบางนา ยังได้สนับสนุนงบประมาณ 95 ล้านบาท ให้กับโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถแห่งใหม่ในเขตทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา – ตราด ช่วงกิโลเมตรที่ 7 เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบริเวณถนนบางนา – ตราด และชุมชนรอบเมกาบางนา อีกทั้งยังจะช่วยลดอุบัติเหตุในพื้นที่ และเป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงหลักในเส้นทางสายตะวันออก และเพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชนในย่านบางนา ซึ่งได้พัฒนาเป็น “ฮับ” ยุทธศาสตร์สำคัญ ศูนย์รวมของการเดินทาง และการขนส่งในอนาคต
จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว ศูนย์การค้าเมกาบางนา คาดว่าสิ้นปี 2562 นี้จะมียอดลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ 46 ล้านคน
.jpg)
ข่าวเด่น