กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กางสถิติส่งออก ชี้เอฟทีเอเอื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ดันมูลค่าส่งออกสูงกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทะยานสู่อันดับ 1 ของโลก โดยมี จีน อาเซียน และญี่ปุ่น เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ 3 อันดับแรก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยขยายตัวจนเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับ 1 ของโลก เพราะจากเอฟทีเอที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบัน 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ นั้น มีคู่เจรจาเอฟทีเอที่ไม่เก็บภาษีศุลกากรผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่นำเข้าจากไทยแล้วถึง 15 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง เหลือเพียง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ยังเก็บภาษีศุลกากรผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่นำเข้าจากไทยบางรายการ เช่น ญี่ปุ่นเก็บภาษีศุลกากรแป้งมันสำปะหลังที่นำเข้าจากไทยร้อยละ 15 เกาหลีใต้ เก็บภาษีสาคูที่ทำจากมันสำปะหลังร้อยละ 5 และกำหนดโควต้าภาษีกับมันสำปะหลังเส้น (ปริมาณในโควต้า 25,000 ตัน/ปี เก็บภาษีร้อยละ 20 ปริมาณนอกโควต้า เก็บภาษีร้อยละ 887.4) แป้งมันสำปะหลัง (ปริมาณในโควต้า 9,600 ตัน/ปี เก็บภาษีร้อยละ 20 นอกโควต้า เก็บภาษีร้อยละ 887.4) และอินเดีย เก็บภาษีสาคูที่ทำจากมันสำปะหลังร้อยละ 30
(16).jpg)
นางอรมน เสริมว่า ในปี 2561 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังสู่ตลาดโลก 3,111.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึงร้อยละ 10.23 ในจำนวนนี้ เป็นการส่งออกไปประเทศคู่เอฟทีเอ 17 ประเทศ รวมมูลค่ากว่า 2,694.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 86.6 ของการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยทั้งหมด โดยมีประเทศคู่ค้าสำคัญ 3 อันดับแรก คือ จีน อาเซียน และญี่ปุ่น ซึ่งไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปจีนเป็นอันดับ 1 มูลค่ากว่า 1,777.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวกว่าร้อยละ 531 เมื่อเทียบกับปี 2547 ก่อนที่จีนจะลดภาษีให้ไทยภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน สำหรับอาเซียนนั้น ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปมูลค่า 485.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวกว่าร้อยละ 1,237 เมื่อเทียบกับปี 2535 ก่อนที่อาเซียนจะเริ่มลดภาษีสินค้าภายใต้ความตกลงอาฟต้า (AFTA) และญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกของไทยอันดับที่ 3 ซึ่งไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปมูลค่า 294.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวกว่าร้อยละ 124 เมื่อเทียบกับปี 2549 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะลดภาษีมันสำปะหลังบางรายการ สอดคล้องกับสถิติปี 2561 ที่ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการไทยขอใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเออาเซียน- จีน (ACFTA) เอฟทีเอระหว่างอาเซียน (AFTA) เอฟทีเออาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) และเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA)

นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันไทยมีเนื้อที่เพาะปลูกมันสำปะหลังกว่า 9 ล้านไร่ ผลผลิตเฉลี่ยกว่า 30 ล้านตันต่อปี โดยมันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของไทย เนื่องจากเป็นทั้งพืชอาหาร วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ และเป็นพืชที่ใช้ผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งมีตลาดรองรับและเป็นที่ต้องการในประเทศต่างๆ อย่างไรก็ดี แม้ไทยจะมีข้อได้เปรียบจากการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เอฟทีเอ แต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับการแข่งขันกับต่างประเทศ ทั้งการมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพควบคู่ไปกับการพัฒนามาตรฐานสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด ตลอดจนพัฒนาการแปรรูปมันสำปะหลังให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงทั้งในรูปแบบของอาหารและไม่ใช่อาหาร ทั้งนี้ ไทยมีผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น แป้งมันสำปะหลัง สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง และมันเส้น เป็นต้น
ข่าวเด่น