ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดยุโรป ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องมองหานายทุนเข้ามาช่วยอุ้มธุรกิจ ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว หากมองเป็นโอกาสก็ถือเป็นโอกาสดีที่นายทุนเงินหนาทั้งหลายจะเข้ามาช้อปปิ้งกิจการต่างๆในยุโรป เพราะการซื้อขายกิจการจะใช้เงินน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดีๆและหนึ่งในนายทุนที่คว้าโอกาสดังกล่าว คือ กลุ่มเซ็นทรัล
หลังจากออกมาประกาศว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เป็น 60% จากเดิมวางไว้ 30% กลุ่มเซ็นทรัล ก็เดินหน้าขยายธุรกิจในภูมิภาคยุโรปอย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการเข้ามาดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าในยุโรปหลายสาขาในหลายประเทศ โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัล ได้มีการทุ่มงบกว่า 20,000 ล้านบาท ลงทุนขยายธุรกิจใน 3 เมืองท่องเที่ยวใน 3 ประเทศ ได้แก่ โครงการมิกซ์ยูสที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย, โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา ประเทศญี่ปุ่น และห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต เมืองตูริน ที่รีโนเวตใหม่ทั้งหมด
และล่าสุดในปี 2563 นี้ กลุ่มเซ็นทรัล ได้จับมือร่วมกับ “ซิกน่า” เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าโกลบัส ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจที่ กลุ่มเซ็นทรัล ได้เข้าไปซื้อกิจการในครั้งนี้คือ “โกลบัส” (Globus) เชนห้างสรรพสินค้าสุดหรูในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จำนวน 8 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในสุดยอดโลเคชั่นตามเมืองต่างๆ
สำหรับการเข้าซื้อกิจการ “โกลบัส” จากบริษัท Migros-Genossenschafts-Bund (MGB) ในครั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ได้เข้าไปถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนการร่วมทุน 50 : 50 และจากการร่วมทุนดังกล่าวยังถือเป็นการร่วมทุนครั้งใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่า ที่เป็นเจ้าของร่วมกันในกิจการของกลุ่มคาเดเว (KaDeWe Group) ธุรกิจห้างสรรพสินค้าในประเทศเยอรมนี และกำลังพัฒนาโครงการห้างสรรพสินค้าใหม่ร่วมกันในเมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี และกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
นอกจากนี้กลุ่มเซ็นทรัลยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเตอีก 9 แห่ง ในประเทศอิตาลี และห้างสรรพสินค้าอิลลุม ในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งจากการร่วมทุนที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือเป็นการขยายอาณาจักรค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล ให้ครอบคลุมทวีปยุโรป 5 ประเทศ ประกอบด้วย เยอรมนี, ออสเตรีย, อิตาลี, เดนมาร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ การผนึกกำลังเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้กลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ครอบครองและบริหารงานธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรูในยุโรป
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่าการเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าโกลบัส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในครั้งนี้ บริษัทได้เข้าไปร่วมทุนกับกลุ่มซิกน่าในสัดส่วน 50:50 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของความสำเร็จในการเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของข้อตกลงทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการซื้อกิจการของห้างสรรพสินค้าโกลบัสในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านฟรังก์สวิส
ทั้งนี้นอกจาก กลุ่มเซ็นทรัลจะเข้าไปซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าโกลบัส ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์แล้ว กลุ่มเซ็นทรัลยังเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและโรงแรมอีกแห่งหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมสรความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตธุรกิจต่างประเทศอีกด้วย
นายทศ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่การซื้อกิจการรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจของการขยายธุรกิจในยุโรป ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในยุโรปเติบโตเป็นอย่างมากจากจุดเริ่มต้นมีรายได้เพียง 200 ล้านยูโรเท่านั้น ซึ่งจากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวบริษัทคาดว่าในสิ้นปี 2563 นี้จะมีรายได้แตะ 2 พันล้านยูโรอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน กลุ่มเซ็นทรัล บริหารธุรกิจในยุโรปรวม 5 ประเทศ 19 เมืองในยุโรป มี 2 เมือง คือ ดึสเซิลดอร์ฟ และเวียนนา โครงการอยู่ในระหว่างการพัฒนา
นายวิททอริโอ ราดิเช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป ในฐานะตัวแทนการร่วมทุนของกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่าในครั้งนี้ กล่าวว่า โกลบัส ถือเป็นแบรนด์ห้างสรรพสินค้าดี และน่าจับตามองเป็นอย่างมาก บริษัทมีความยินดีที่ได้เชนห้างสรรพสินค้าโกลบัสมาเป็นสมาชิกใหม่ในพอร์ตธุรกิจ เนื่องจากเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง และเป็นแบรนด์ที่ความแข็งแกร่ง จึงน่าจะมาช่วยเติมเต็มให้กับธุรกิจห้างสรรพสินค้าในยุโรปของบริษัทให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าในยุโรปนับจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลจะนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของทั้งสองบริษัทจากการบริหารห้างสรรพสินค้าคาเดเว, รีนาเชนเต และอิลลุม มาต่อยอดให้ห้างสรรพสินค้าโกลบัสขึ้นแท่นห้างสรรพสินค้าระดับแนวหน้าที่จะส่งมอบประสบการณ์ชั้นเลิศในแบบฉบับสวิสให้แก่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ด้านนายฟาบรีซ ซัมบรุนเนน ประธานกรรมการบริหาร Migros กล่าวว่าบริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่า ที่มีประสบการณ์การบริหารห้างสรรพสินค้าหรูหลายแห่งในยุโรป เช่นเดียวกับการร่วมทุนในครั้งนี้ที่ทั้งสองบริษัทมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารห้างสรรพสินค้าหรูหลากหลายแห่ง มาสร้างอนาคตที่แข็งแกร่ง และดีกว่าเดิมให้กับโกลบัส
ในส่วนของแผนการบริการงานห้างสรรพสินค้าโกลบัสนับจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลจะเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นกลุ่มห้างสรรพสินค้าหรูชั้นนำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการปรับภาพลักษณ์และจุดขายของห้างให้มีความทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ประจำชาติ อันเป็นจุดเด่นของห้างสรรพสินค้าโกลบัส
นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ยังจะใช้จุดแข็งในด้านของการเป็นแบรนด์สวิสดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในกลุ่มลูกค้าชาวสวิส การมีพนักงานที่มากประสบการณ์และความมุ่งมั่นในการทำงาน การมีลอยัลตี้โปรแกรมในรูปแบบบัตรสมาชิก รวมถึงการจำหน่ายสินค้าที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป, สินค้าเกี่ยวกับบ้าน และความสวยความงาม เป็นจุดแข็งที่ทำให้ห้างสรรพสินค้าโกลบัส ประสบความสำเร็จและนำพาให้ กลุ่มเซ็นทรัล ก้าวไปสู่เป้าหมาย ด้วยการมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 60% สูงกว่ารายได้ในประเทศที่มีสัดส่วน 40% เนื่องจากโอกาสการสร้างรายได้ในตลาดต่างประเทศมีสูงกว่า
“แม้ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกจะเป็นตลาดที่ท้าทายและแข่งขันสูง แต่การผนึกกำลังศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่า จะเป็นสิ่งรับประกันความมั่นคง และความสามารถในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้โกลบัสก้าวสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าที่ครองตำแหน่งผู้นำ และครองใจลูกค้าทุกคน” วิททอริโอ ราดิเช กล่าวปิดท้าย
ข่าวเด่น