การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
อธิการบดี ม.มหิดล ให้ความเชื่อมั่นพร้อมสู้วิกฤต Covid-19


นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๒ ที่ไวรัส Covid-19 เริ่มต้นแพร่ระบาด จนขยายวงกว้างไปถึงกว่า ๑๖๐ ประเทศทั่วโลก ตัวเลขผู้ป่วยสะสมจากไวรัส Covid-19 สูงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีผู้ใดคาดการณ์ได้อย่างแน่ชัดว่าการระบาดครั้งนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด 


 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่าที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับโรคร้ายดังกล่าวด้วยความเสียสละ และเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่อยู่เบื้องหลังการเก็บและตรวจสารคัดหลั่ง ต่างต้องทำงานหนักบนความเสี่ยง และความกดดัน บางรายต้องทำงานติดต่อกันเกิน ๒๔ ชั่วโมง เพื่อดูแลผู้ป่วย

มหาวิทยาลัยมหิดลพร้อมรับมือสถานการณ์โรค Covid-19 ทั้งด้านการรักษาพยาบาลและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยเรามีคณะแพทย์ที่เป็นกำลังสำคัญร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลคนไทย โดยได้มีการเตรียมพร้อมทั้งในด้านกำลังคน แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ที่พร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยจำนวนมากเพื่อรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดเตรียมรองรับการคัดกรอง และดูแลผู้ป่วย Covid-19  ตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย ปานกลาง ไปจนถึงรุนแรงและได้มีการขยายพื้นที่ไปยัง ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกมหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา จ.นครปฐม เพื่อรองรับผู้ป่วย Covid-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง 
 

 

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีการจัดโซนดูแลรักษาเป็นการเฉพาะ มีคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจครบวงจร ตั้งแต่การตรวจ จ่ายยา เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ หอผู้ป่วยเฉพาะโรค ตลอดจนห้องไอซียูสำหรับผู้ป่วยหนัก และที่ โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ได้มีการริเริ่มใช้ ๔ หุ่นยนต์ “พอดี คิดดี ทำดี อารี” ในการทำความสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงของบุคลากรต่อการติดเชื้อ Covid-19 อีกด้วย 
 


 
 
นอกจากนี้ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนและห้องปฏิบัติการคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยศูนย์เทคนิคการแพทย์และรังสีเทคนิคนานาชาติ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ยังได้เปิดให้บริการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัส Covid-19 ให้แก่ ห้องปฏิบัติการของสถานพยาบาลต่างๆ วันละ ๒ รอบ ด้วยเทคนิคReal - Time RT-PCR ซึ่งผ่านการทดสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว โดยจะแจ้งผลการตรวจกลับไปยังสถานพยาบาลที่มาใช้บริการภายใน ๒๔ ชั่วโมง  
 
ในส่วนของนักศึกษาและบุคลากร มหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ความสำคัญในเรื่องการสื่อสารเป็นอันดับแรก โดยเรามีแอปพลิเคชัน We Mahidol ที่คอยป้อนข้อมูลที่เชื่อถือได้ ซึ่งรวมถึงคำสั่ง ข้อบังคับประกาศที่จำเป็น นอกจากนี้มีการป้องกันการแพร่เชื้อของโรค ทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆ ทั้งในห้องเรียน ห้องทำงานและสถานที่ต่างๆภายในมหาวิทยาลัย ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ร่วมด้วยการรณรงค์ให้มีการล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยหลีกเลี่ยงการชุมนุม เลื่อนการจัดกิจกรรมต่างๆ และให้บุคลากรได้Work From Home เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดต่อโรค โดยใช้ระบบWebex สำหรับให้นักศึกษาได้เรียนออนไลน์ และให้บุคลากรได้ประชุมทางไกลจากที่บ้านและยังได้ผลักดันให้นักศึกษาและบุคลากรทุกคนรวมถึงคนที่มีความพิการ สามารถเข้าถึงสิทธิในการทำ "ประกันโควิด" ได้อย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย

"ช่วงวิกฤต Covid-19 นี้ขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ทำงาน "ปิดทองหลังพระ" เสมอมา และขอให้ประชาชนชาวไทยผ่านความยากลำบากครั้งนี้ด้วยความมีสติ ไม่ประมาท ไม่ตระหนกเกินเหตุ รับรู้ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ ตลอดจนดูแลสุขภาพ และร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดเพื่อชาติ มาตรการใดๆ ก็ไม่อาจบรรลุได้ หากคนในสังคมไม่เข้าใจ ไม่ตระหนัก และไม่ให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง นอกจากนี้ ด้วยพลังของชุมชนที่เข้มแข็งจะทำให้เราผ่านวิกฤต Covid-19 ครั้งนี้ไปได้ในที่สุด" ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ กล่าวทิ้งท้าย

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 เม.ย. 2563 เวลา : 12:49:37
20-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 20, 2025, 12:16 am