การตลาด
สกู๊ป "โค้ก-เป๊ปซี่-เอส"เปิดศึกชิงแชร์ตลาดน้ำดำลุ้นจบโควิด-19 ตลาดยังโต


จากการรายงานดัชนีค้าปลีกของบริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด ในปี 2562 ที่ผ่านมาตลาดน้ำอัดลมมีการขยายตัวสูงถึง 11.7% และมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 56,000 ล้านบาท ในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์โคล่า(น้ำดำ) ประมาณ 71% มีอัตราการเติบโต 13% ผลิตภัณฑ์น้ำสี 23% มีอัตราการเติบโต 9.6% และน้ำอัดลมใส 5% มีอัตราการเติบโตประมาณ 6%


สำหรับในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์โคล่า ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็นมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านบาทและเป็นตลาดที่มีการขยายตัวมากที่สุด มีแบรนด์โค้กเป็นผู้นำตลาด โดยการครองส่วนแบ่งการตลาดที่ประมาณ 35.71% ตามด้วยเป๊ปซี เอส บิ๊กโคล่าและอื่นๆ

ด้วยมูลค่าตลาดที่มหาศาลส่งผลให้การแข่งขันของตลาดน้ำดำยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับปีนี้ แม้ว่าขณะนี้จะมีปัจจัยลบในด้านของไวรัสโคโรน่า หรือโรคโควิด-19 มาส่งผลกระทบต่อการทำตลาดไปบ้างแต่ผู้ประกอบการในตลาดก็ยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งถือเป็นช่องทางหลักของการทำการตลาดในช่วงเวลานี้
 
 

 
 
 
น.ส.มัณฑนา หล่อไกรเลิศ ผู้อำนวยการการตลาดบริษัท โคคา-โคล่า(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมภายใต้แบรนด์ โค้ก กล่าวว่า ในฐานะผู้นำตลาดน้ำอัดล มแผนการทำตลาดในปี 2563 นี้ บริษัทได้นำแคมเปญระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ ‘โค้ก’ อย่าง ‘ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…’ กลับมาชวนผู้บริโภคชาวไทยส่งผลิตภัณฑ์โค้กสานความสัมพันธ์ทั้งในหมู่เพื่อน ครอบครัว และคนรักตลอดหน้าร้อนอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จกับแคมเปญดังกล่าวเป็นอย่างดีในปี 2556

ในส่วนของแคมเปญ ‘ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…’ ในปีนี้ ค่ายโค้ก ได้นำมาปรับรูปแบบการทำตลาดให้เข้ากับยุคดิจิทัลมากขึ้นและยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม ด้วยการชวนผู้บริโภคส่งกระป๋องผลิตภัณฑ์ ‘โค้ก’ ที่ออกแบบมาเพื่อส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้มากกว่าที่เคย โดยการนำชื่อเล่นยอดฮิตและข้อความบอกความรู้สึกที่ทันสมัยโดนใจ กว่า 400 แบบ พร้อมนำกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบมาสร้างสรรค์บนกระป๋อง ‘โค้ก’ เพื่อส่งต่อความรู้สึกในแบบของตัวเองต่อคนที่ตัวเองรัก

น.ส. มัณฑนา กล่าวอีกว่าบริษัทได้เตรียมกิจกรรมการตลาดพร้อมสร้างการรับรู้แบบ 360 องศาสำหรับแคมเปญ ‘ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…’ ตลอดฤดูร้อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการฉลอง Share a Coke Day ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยทำให้วัยรุ่นได้ส่งโค้กให้กันง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้นผ่านโลกดิจิทัลโดยโค้กได้ส่งเพลง #ชื่อเราอยู่ไหน ผลงานของศิลปินฮิปฮอปชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นอย่าง UrboyTJ มาประกอบภาพยนตร์โฆษณา ให้วัยรุ่นได้ลองส่ง ‘โค้ก’ ให้กันผ่านวิดีโอ ซึ่งหลังจากเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังมาตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ผู้บริโภคให้ผลการตอบรับที่ดี
 

 
 
 
 
ด้านค่ายเป๊ปซี่ก็ออกมางัด 3 กลยุทธ์สู้ศึกหน้าร้อน เริ่มจากการนำพระเอก “เป๊ปซี่” นำทัพกระตุ้นยอดขายต่อด้วยการทำแคมเปญชิงโชคใหญ่ “เป๊ปซี่ ซัมเมอร์ซ่า” ที่ทุ่มทุนแจกของรางวัลรวมกว่า 20,000 รางวัล มูลค่า 40 ล้านบาท เฉพาะทองคำซึ่งเป็นรางวัลใหญ่มูลค่าถึง 10 ล้านบาท ซึ่งทองคำมีน้ำหนักเกือบ 7 กิโลกรัม และการแจกรถยนต์ BMW X1 มูลค่า 1.99 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือซัมซุง เป็นต้น

นายจรณชัย ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่ กล่าวว่าการทำตลาดในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้บริโภคมีหลากหลายเซ็กเมนต์และมีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการจะทำการตลาดผลิตภัณฑ์ใดให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีการขบคิดตีโจทย์ให้แตกไม่ว่าจะเป็นการออกสินค้าใหม่หรือการทำแคมเปญการตลาดที่ต้องมีการเก็บข้อมูล ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายรอบด้าน เพื่อให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้า กิจกรรมการตลาดโดนใจมากสุด

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ภารกิจสำคัญของบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ คือ การนำพา “เป๊ปซี่” เครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือโคล่า กลับมายืนเป็น “ผู้นำตลาดน้ำดำ” ได้อีกครั้ง และเพื่อให้ทุกอย่างเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ค่ายเป๊ปซี่ จึงต้องพยายามสร้างการเติบโตให้กับสินค้า โดยในปี 2563 นี้ ได้เตรียมนำงบ 400 ล้านบาท มาทำการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ.-พ.ค.

น.ส.ศิเรมอร ศุภจรรยา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากมองในด้านของการเติบโต ถือว่าบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นอันดับ 1 ของตลาดน้ำอัดลม สิ่งดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทเป็นผู้ผลักดันตลาดให้มีความคึกคัก โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากมาย ควบคู่ไปกับการออกสินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับในปีที่ผ่านมาและบริษัทมั่นใจว่าปีนี้ก็จะได้รับความสำเร็จอีกเช่นกัน
 
 

 
 
 
อีกหนึ่งค่ายน้ำดำที่ออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงหน้าร้อนนี้ผ่านสื่อต่างๆ คือ เอส โคล่า แม้ว่าปัจจัยลบในด้านของโควิด-19 จะส่งผลกระทบให้ค่ายเอส โคล่า ไม่สามารถจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบออนกราวด์ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะยังมีโลกของออนไลน์และสื่อเทรดดิชั่นนอลให้ใช้สื่อสารกับผู้บริโภค

สำหรับแผนการทำตลาดในปีนี้ค่ายเอส โคล่า ได้ออกมาประกาศจะทุ่มงบกว่า 80 ล้านบาท ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในส่วนของบรรจุภัณฑ์เเบบ “ขวดแก้ว” ผ่านแคมเปญ “เอส โคล่า พระเอกของมื้ออร่อย” ด้วยการดึงนักเเสดงหนุ่ม “เจมส์ จิรายุ” มาเสริมทัพกับแก๊งพระเอกคนดังอย่างบอย ปกรณ์ , เกรท วรินทรและอาเล็ก ธีรเดช เพื่อต่อยอดแคมเปญที่สร้างโอกาสการดื่ม “เอส โคล่า” คู่ทุกมื้ออาหาร ซึ่งหลังจากทำการตลาดอย่างหนักค่ายเอส โคล่า มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดี

ปัจจุบันเอส โคล่า มีส่วนเเบ่งตลาดน้ำอัดลมอยู่ที่ประมาณ 10.3% และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากปีนี้มีการทำการตลาดในส่วนของช่องทางร้านอาหารที่เน้นขาย เอส ขวดแก้ว เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หันมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 เม.ย. 2563 เวลา : 07:48:54
20-06-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 20, 2025, 1:34 pm