การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
ศบค. เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน จากการคนหาเชิงรุก รวมสะสม 3,018 คน ไม่มีเสียชีวิต


ศบค. เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 คน จากการคนหาเชิงรุก รวมสะสม 3,018คน ไม่มีเสียชีวิต พร้อมเตรียมนำแอพฯ "ไทยชนะ" รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการ-ผู้ใช้บริการ เพิ่มความสะดวก ลดความเสี่ยงแพร่ระบาดและติดเชื้อ


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19ในวันนี้ (14 พ.ค.) พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อ 1 คน ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 3,018 คน รักษาหายเพิ่ม 6 คน สะสม 2,850 คน และวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 56 คน

ผู้ป่วยที่เพิ่มใหม่เป็นผู้ป่วยที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้า เป็นชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาที่ จ.เชียงใหม่ แต่ทำงานที่ จ.ภูเก็ต และได้เดินทางกลับบ้านที่เชียงใหม่ พร้อมลูกและภรรยา ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา และได้รับการตรวจหาเชื้อจากการดำเนินการจาก อสม. ในพื้นที่

ทั้งนี้ผู้ป่วยใหม่ไม่มีอาการ แต่เป็นความสามารถของ อสม.ในพื้นที่สำคัญ ต้องยกเครดิตและให้ความสำคัญกับ อสม.ที่สามารถถึงผู้ป่วยรายนี้มารับการตรวจและผลบวกยืนยัน พร้อมขอบคุณจังหวัดเชียงใหม่ที่ดูแลคนกลับจากภูมิลำเนา แม้กลับจากพื้นที่เสี่ยงก็ให้การต้อนรับดี พร้อมอยากสื่อสารคนที่ออกจากภูเก็ต หากมีความรู้สึกอยากรับการตรวจขอให้เข้ามาได้เลย เพราะผู้อยู่พื้นที่เสี่ยงไม่ว่ามีประวัติหรือไม่มีอาการ ก็เข้ามาตรวจได้"
 
“แม้ตัวเลขจะลดลงต่อเนื่อง แต่การ์ดต้องไม่ตก ต้องดูแลกันเหมือนเดิม เพราะสถานการณ์ของโลกยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ อยากให้ตัวเลขเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะนำไปสู่คลายล็อกระยะที่ 2”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้กรมควบคุมโรคได้นำสถิติโรคปอดอักเสบในประเทศไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.-9 พ.ค.63 (18 สัปดาห์) มีผู้ป่วย 85,689คน คิดเป็นอัตราป่วย 129 ต่อประชากรแสนคน พบผู้เสียชีวิต 50 คน แต่พบจำนวนผู้ป่วยลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่มีการรณรงค์การใส่หน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนกลาง นอกจากป้องกันโควิด-19 ทำให้ลดการเกิดโรคปอดอักเสบด้วย

สำหรับสถานการณ์ของโลก มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 4,429,223 คน หายป่วยแล้ว 1,658,375 คน เสียชีวิต 298,165 คน

ทั้งนี้จากสถานการณ์ในต่างปะรเทศที่เกาหลีใต้ มีรายงานผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวผับย่านอิแทวอนเพิ่มขึ้น 131 คน ทำให้เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรวม 10,919 คน ทำให้เกิดความกังวลจะระบาดรอบสอง หลังทางการประกาศมาตรการผ่อนคลายก่อนหน้านี้ จึงออกมาตรการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออีกกว่า 10,000 คนให้มารายงานตัวและตรวจโรคกับทางการ โดยพบว่ายังมี 2,000 คนไม่มารายงาน

"เราจะเข้าสู่การผ่อนปรนระยะสอง และบทเรียนจากเกาหลีใต้จะทำให้เราได้เตรียมความพร้อม"

สำหรับผู้ที่เข้ากักกันมีรวมสะสม 10,948 คน อยู่ระหว่างกักกัน 9,500 คน และกลับบ้านแล้ว 8,540 คน ตรวจคัดกรองพบผู้ติดเชื้อ 90 คน

สำหรับการตรวจกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลาย 22,972 กิจการ/กิจกรรม ส่วนใหญ่พบการปฎิบัติตามข้อกำหนด แต่ยังพบว่าการตรวจร้านทำผม มีจำนวนผู้ไม่ผ่านการปฏิบัติตามเกณฑ์มากกว่ากว่าข้อมูลที่ได้รับ ซึ่ง ศปม. จะตรวจตามเกณฑ์ 5 ข้อ แต่ก.มหาดไทยจะมีรายละเอียดการตรวจ และการใช้คู่มือ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีคู่มือแนะนำ ซึ่งเป็นการตรวจในเชิงคุณภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในหลายระดับชั้นว่า ผู้ใช้บริการจะได้รับการดูแล สะอาด ไม่ติดโรค และสะท้อนข้อมูลกลับมาได้ และระยะต่อไปจะมีการใช้แอฟฯ เป็นระบบแจ้งข้อมูลช่วยเพิ่ม

ทั้งนี้ ศบค.ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้พัฒาแพลตฟอร์มชื่อ "ไทยชนะ" เสร็จแล้ว เพื่อรวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทะเบียน และสามารถทำให้เกิด QR Code ทำหน้าที่แทนสมุดบันทึกข้อมูลการให้บริการ ลูกค้า-ผู้ใช้บริการ สแกนเข้า-ออกการใช้บริการ ดังนั้นจะเป็นข้อมูลอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และเป็นมาตรการให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำงาน และระยะต่อไปการเปิดห้าง เปิดกิจกรรม-กิจการมากขึ้น ทำให้รับรู้ข้อมูลได้ง่าย

"ถ้าท่านเดินไปตัดผม ร้านนี้ดี ท่านสามารถให้เรทติ้งได้ด้วย ช่วยดึงคนอื่นมาใช้บริการได้ หรือถ้าเรากำลังจะเข้าห้างเปิดแอฟนี้แล้ว เห็นมีคนจำนวนมาก เราก็สามารถตัดสินใจได้ การใช้งานง่ายๆ แค่มีโทรศัพท์ ซึ่งการใช้งานระยะแรกอาจติดขัดบ้างหรืออาจจะต้องใช้แบบแมนนวลควบคู่กัน แต่เป็นความพยายามของทุกฝ่ายที่ทำเต็มที่ แต่ถ้าตอบโจทย์ได้ 70-80% ก็เพื่อช่วยเราทุกคน เราไม่อยากให้เกิดเหมือนอีแทวอน เป็น Second wave "

บันทึกโดย : วันที่ : 14 พ.ค. 2563 เวลา : 12:41:00
20-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 20, 2025, 9:00 am