กลยุทธ์การลงทุน:
คาด SET การฟื้นตัวยังจำกัด โดยการปรับขึ้นจาก Technical Rebound เข้าสู่โซนแนวต้านบริเวณ 1337 และ 1342 จุด ที่มองเป็นกรอบบนที่จำกัด และตลาดขาดแรงหนุน ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1325 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1320 จุด ประเด็นสำคัญติดตามรายงานประชุมเฟด ซึ่งเราให้ระวังการส่งสัญญาณลดนโยบายผ่อนคลายการเงิน หลังเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวแล้ว จะเป็นปัจจัยลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง กลยุทธ์ การเข้าตลาดในช่วงนี้ ให้ใช้การเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวน และแนวโน้มหลักยังคาดอยู่ในทิศทางลง ส่วนพอร์ตลงทุน รอซื้อสะสมบริเวณ 1300 จุด
ล็อคเป้าลงทุน:
- สำหรับชุดหุ้นแนะนำซึ่งประกอบด้วย GFPT, BEM, BCH, CHG, ILINK ยังคงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อในลักษณะ trading รอจังหวะอ่อนตัวซื้อ และขายเมื่อปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน
- เรายังคงชอบ BEM โดยคาดดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเห็นการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน 2H63 โดยได้รับปัจจัยกระตุ้นจากปริมาณจราจรบนทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้ม upside จากการชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ประเมินได้ที่ 1.5 บาท/หุ้น) และสายสีม่วงใต้ (0.75 บาท/หุ้น) ด้วย เรายังไม่ได้นำ upside จากโครงการเหล่านี้มาใส่ไว้ในราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 10.70 บาท
ประเด็นสำคัญ
# S&P500 ขยับขึ้นทำ new high อีกครั้ง แต่ DJIA ปรับลง
โดยแรงหนุนมาจากผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของ Home Depot และ Walmart ขณะที่ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ก.ค. ดีกว่าคาดและสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ทางด้านการเจรจามาตรการพยุงเศรษฐกิจยังไม่คืบหน้า โดยนายสติเวน มนูชิน ระบุว่าฝั่งเดโมแครตดึงดันที่จะไม่ลดขนาดวงเงินงบฯ แต่ล่าสุดผู้นำส.ส.กล่าวว่าอาจยอมลดงบบางส่วนเพื่อให้ผ่านความเห็นชอบ
# ราคาน้ำมันทรงตัว หลังกลุ่ม OPEC+ ให้ความร่วมมือลดกำลังผลิต
โดย OPEC+ ระบุว่าในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกได้ลดกำลังผลิตลงเป็นสัดส่วนกว่า 97% ของโควตาที่กำหนด นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุม JMMC ในวันนี้ว่ามีความเห็นอย่างไร
# ติดตามรายงานประชุม FOMC ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงิน
โดยในวันนี้ 19 ส.ค.ตามเวลาในสหรัฐ (หรือเช้ามืด 20 ส.ค. ตามเวลาในไทย) Fed จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อ 28-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดจะมีการเปลี่ยนเป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินโยบายในอนาคต ซึ่งอาจจะตั้งเป้าเงินเฟ้อสูงขึ้นจาก 2% รวมทั้งเปลี่ยนรูปแบบการซื้อสินทรัพย์ในมาตรการ QE หรืออาจเปลี่ยนจาก QE เป็น Yield Curve Control แทน
Wealth Strategy
ลงทุนหุ้นกู้คุณภาพ “CPF" บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) อายุคงเหลือ 4 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ A+
บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มปิโตรเคมี – ต้นทุนแนฟทาที่สูงขึ้นกดดันส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์
BDMS – การดำเนินงานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
ข่าวเด่น