‘พาณิชย์’ หารือเอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐชิลีประจำประเทศไทย กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน เล็งร่วมจัดสัมมนาโอกาสการค้าการลงทุนและใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย–ชิลี ติดตามความคืบหน้าการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เผย มีลุ้นได้ใช้ต้นปี 64! พร้อมหนุนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ขยายการค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในอนาคต
(1).jpg)
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับนายคริสเตียน เรเรน บาร์เกตโต (H.E. Mr. Christian Rehren Bargetto) เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐชิลีประจำประเทศไทย และนางโรส มารี เบเดการ์แรตซ์ (Mrs. Rose Marie Bedecarratz) ผู้แทนการค้าชิลีประจำประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าภายใต้เอฟทีเอไทย-ชิลี
นางอรมน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายหารือถึงโอกาสที่จะร่วมกันจัดสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลโอกาสการค้าการลงทุนของไทยในชิลีและการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอไทย–ชิลี และติดตามความคืบหน้าการดำเนินการรับรองหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและสนับสนุนให้การค้าสองฝ่ายขยายตัวสูงขึ้นท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในเดือนมกราคม 2564 นอกจากนั้น ยังเห็นพ้องกันว่า ควรเร่งสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดระหว่างกัน รวมถึงรองรับโอกาสจากพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยปัจจุบันชิลีเริ่มเข้าสู่ตลาดออนไลน์ของไทยในกลุ่มสินค้าอาหารทะเลและผลไม้ ในขณะที่สินค้าไทยในกลุ่มอาหารกระป๋อง อาหารสัตว์/สัตว์เลี้ยง ถุงมือยาง และถุงยางอนามัย ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชิลีด้วยเช่นกัน จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกันเพื่อขยายการค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในอนาคตต่อไป
“ไทยและชิลีจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการค้าและการใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ภายใต้เอฟทีเอให้มากขึ้น โดยสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ส่งออกไปยังชิลีในครึ่งปีแรกสูงสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับเอฟทีเออื่นๆ ของไทย ซึ่งชิลีเป็นตลาดสำคัญ โดยเป็นช่องทางสำหรับขยายการค้าและการลงทุนไปสู่ภูมิภาคลาตินอเมริกา อีกทั้งชิลีได้ให้ความสำคัญกับไทยในฐานะที่ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน และตั้งอยู่ไม่ไกลกับตลาดใหญ่อย่างจีน” นางอรมน เสริม
ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค. – ส.ค.) การค้าระหว่างไทยและชิลี มีมูลค่าราว 521.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการส่งออก มูลค่า 230.3 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์ส่งของ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ปลากระป๋อง เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และถุงมือยาง และมีการนำเข้า มูลค่า 291.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ทองแดง สินค้าประมง ผลไม้ เยื่อกระดาษ น้ำมันปลา ไวน์ และเนื้อสัตว์แปรรูป
ข่าวเด่น