หลังจากบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการรายใหญ่ของไทยได้ออกมาประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ด้วยการประกาศแต่งตั้งให้ นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ รับผิดชอบในการมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทั่วโลก พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่จะประสานประโยชน์ร่วมกันได้ในหลากหลายวิถีทาง

พร้อมกันนี้ ยังมีการแต่งตั้ง นางแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ เข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ รับผิดชอบในการยกระดับการขายเชื่อมโยงออฟไลน์สู่ออนไลน์ให้กับบรรดาร้านค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยจากฐานลูกค้าของ สยามพิวรรธน์ ที่มีอยู่แล้วทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังแต่งตั้ง นางอัมพร โชติรัชสกุล เข้ามารับผิดชอบหน่วยงานสนับสนุนทั้งหมดของสยามพิวรรธน์ และทำ Digital Transformation แต่งตั้งนางกนกลดา ฤกษ์เกษม รับผิดชอบในเรื่องบริหารการเงินและการขยายการลงทุน และแต่งตั้งนางอุสรา ยงปิยะกุล เข้ามารับผิดชอบในการดำเนินการและบริหารกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของบริษัทในเครือรวมถึงการขายออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการบริหารจัดการในยุคที่ความเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
และเพื่อให้การปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวขับเคลื่อนธุรกิจไปอย่างมีประสิทธิภาพ สยามพิวรรธน์ จึงได้มีการจัด Agile Team คนรุ่นใหม่ และสร้างหน่วยงาน Think Tank เข้าทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูง โดยมีหน้าที่หลัก คือ การรับผิดชอบงานหลากหลายโปรเจ็คในการพัฒนาธุรกิจของบริษัท และทำงานร่วมกับบรรดาร้านค้า พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างโมเดลในการขายใหม่ๆให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า การจัดโครงสร้างใหม่ดังกล่าว ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัท สยามพิวรรธน์ เพราะนับจากนี้ไปธุรกิจของบริษัทจะถูกขับเคลื่อภายใต้การบริหารของกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 5 ท่าน ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในวงการค้าปลีก เพื่อให้ธุรกิจในเครือของสยามพิวรรธน์มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการจัดตั้ง Agile Team ขึ้นมาถือเป็นการเบลนวิสัยทัศน์ในการทำงานระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ถือเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถหลากหลาย มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ดังนั้น ทีมนี้จึงถือเป็นทีมที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยการทำหน้าที่มองหาโอกาส และนำแนวความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เกิดในโลกดิจิทัล เพื่อนำมาช่วยพัฒนาและต่อยอดให้องค์กรสามารถมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เพื่อให้การก้าวสู่โลกดิจิทัลเต็มไปด้วยศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ล่าสุด สยามพิวรรธน์ ได้มีการดึงผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าด้านเทคโนโลยี และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทยอย่าง นายอริยะ พนมยงค์ อดีต Head ของ Google ประเทศไทย , อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท LINE ประเทศไทย ,กรรมการผู้อำนวยการ (President) ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในนามบริษัท บีอีซีเวิล์ด จำกัด (มหาชน) และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational เข้ามาร่วมเป็นผู้นำทัพในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจของบริษัท สยามพิวรรธน์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital transformation) เข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนองค์กร และธุรกิจในเครือ
นางชฎาทิพ กล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวถือเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ออมนิชาแนล และประสบการณ์จากการให้คำแนะนำแก่บริษัท Fortune Global 500 มากมาย มาสนับสนุนให้สยามพิวรรธน์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำออมนิชาแนลที่โดดเด่นในประเทศไทย และภูมิภาคในอนาคต ซึ่งในส่วนของตัวนายอริยะ เองก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี เพราะเคยเป็นผู้นำในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกมาหลากหลายบริษัท อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชียล จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ได้นายอริยะ เข้ามาสนับสนุนงานของบริษัท ด้วยการสร้างมิติใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ด้านนายอริยะ พนมยงค์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในครั้งนี้ เพราะในโลกธุรกิจยังมีโอกาสอีกมากมายสำหรับการเติบโตในตลาดการค้า เนื่องจากปัจจุบันตลาด E-Commerce มีพื้นที่เพียง 6 % ของอุตสาหกรรมค้าปลีกเท่านั้น ซึ่งในส่วนของกลยุทธ์การตลาดที่จะนำมาใช้นั้นจะเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร เพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรของสยามพิวรรธน์ ไปสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ สร้างสุดยอดประสบการณ์ดิจิทัลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการนำนวัตกรรม และ Data Powered Marketing เพื่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ลึกขึ้น มาสร้างเป็นแพลตพอร์มใหม่ที่จะตอบโจทย์ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้คนจากทั่วโลก
ปัจจุบัน สยามพิวรรธน์ มีแผนที่จะปรับปรุง 3 ศูนย์การค้าในเครือ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ในปี 2564-2565 ด้วยการปรับคอนเซ็ปต์ การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร มานำเสนอผ่านช่องทางออมนิชาแนลทั่วทุกอาคาร เพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ และทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงประสบการณ์ต่างๆได้ตลอดเวลา

นางอัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการใช้งบประมาณ 900 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบนวัตกรรม Digital Platform และระบบบริหารฐานข้อมูลอย่างครบวงจร โดยมีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องในปี 2564 พัฒนาระบบอัตโนมัติ 30 โครงการ (Automation) เพื่อลดขั้นตอนการทำงานของพนักงาน ในด้านของการให้บริการด้านต่างๆ ควบคู่ไปกับการลดขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน เพื่อผลักดันให้ทุกคนทำงานได้สำเร็จลุล่วงเร็วขึ้น โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล เพื่อให้เกิดธุรกิจโมเดลใหม่ๆ เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกับ Global Partners ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกในประเทศต่างๆ เพื่อให้การร่วมกันสามารถขยายเครือข่าย Omni Channel ให้ครอบคลุมทุกมิติได้ทั่วโลก
ข่าวเด่น