ศบค.เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ (28 เม.ย.64 ) พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,012 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,001 คน ซึ่งมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,893 คน และการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 108 คน และผู้เดินทางจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 11 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 15 คน
ส่งผลให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 61,699 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 55,402 คน จากการคัดกรองเชิงรุก 21,840 คน จากผู้เดินทางจากต่างประเทศ 3,297 คน และสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2,668 คน มีผู้ป่วยหายเพิ่ม 851 คน รวมหายป่วยแล้ว 34,402 คน อยู่ระหว่างการรักษา 27,119 คน อาการหนัก 695 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 199 คน เสียชีวิตรวม 178 คน
ผู้เสียชีวิต 15 คน อยู่ในกรุงเทพฯ 9 คน เชียงใหม่ 2 คน สมุทรปราการ 2 คน ชลบุรี 1 คน ระนอง 1 คน โดยมีอายุที่ 35-88 ปี โดยส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง มีภาวะอ้วน ปัจจัยเสี่ยงเกิดจากสัมผัสผู้ติดเชื้อในครอบครัว ที่ทำงาน เพื่อนบ้าน ที่ชุมชน และไปสถานบันเทิง
ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ สะสมตั้งแต่วันที่ 1-28 เม.ย.64 มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในกรุงเทพฯ 10,899 คน เชียงใหม่ 3,347 คน ชลบุรี 2,151 คน นนทบุรี 1,466 คน สมุทรปราการ 1,430 คน
"เรายังจับตาพื้นที่สีแดงเข้ม ใน 3 จังหวัด ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 คน และพื้นที่สีส้ม 5 จังหวัด ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 51-100 คน"
ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือถึงการเพิ่มคู่สายโทรศัพท์ จากการประสานงานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) รองรับผู้ป่วยที่รอเตียง เพื่อให้ได้รับการจัดสรรเตียงให้เร็วที่สุด การเพิ่มคู่สาย จะทำให้การติดต่อเร็วขึ้นโทรติดภายใน 1-2 นาที โดยจะมีระบบรับเรื่อง และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
ส่วนการกระจายวัคซีน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน WTO ซึ่งการรณรงค์การฉีดวัคซีน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ลดอัตราการใช้โรงพยาบาลหรือบริการ ICU แต่ไม่มีการรายงานยืนยันว่าฉีดแล้วไม่ได้ลดการแพร่กระจายเชื้อ ดังนั้้นประชาชนควรฉีดวัคซีน โดยการกะจายวัคซีน ต้องการให้วัคซีนกระจายครอบคลุม 50 ล้านคน (คนละ 2 โดส) หรือคิดเป็น 70% ของประชากรทั้งประเทศ 70 ล้านคน
"อยากให้ประชาชนเข้าใจและรับทราบถึงความจำเป็นของการฉีดวัคซีน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ "
ข่าวเด่น