การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
''อนุทิน'' Bubble and Seal และตั้ง Factory Quarantine กักตัวกลุ่มเสี่ยงที่สมุทรปราการ


 \รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย จ.สมุทรปราการ พบการระบาดโรคโควิด19 ในโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนใกล้เคียง  ให้ปิดทำความสะอาดโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อ ใช้กลยุทธ์ Bubble and Seal และจัดตั้ง Factory Quarantine เพื่อกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสภายในโรงงาน จำกัดวงการแพร่ระบาดป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวและชุมชน


วันนี้ (10 พฤษภาคม 2564) ที่ จ. สมุทรปราการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ติดตามสถานการณ์และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และให้กำลังใจบุคลากร เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และโรงพยาบาลบางจาก พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ ถุงมือทางการแพทย์ หน้ากาก  N95 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์  หน้ากากเฟสชิวล์ ชุด Covrer All เครื่องฟอกอากาศ และยาฟ้าทะลายโจร 

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามสถานการณ์โควิด 19 จ.สมุทรปราการ หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง จากการค้นหาเชิงรุกในโรงงานและในชุมชนใกล้เคียง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 10 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อจำนวน 3,240 ราย เฉพาะวันนี้พบ 116 ราย โดยจังหวัดสมุทรปราการมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ มีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 6,000 แห่ง จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อควบคุมโรคโดยเร็ว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กระทรวงแรงงานฯ สภาอุตสาหกรรมได้เข้าไปดำเนินการควบคุมโรค และเข้มมาตรการองค์กรในโรงงานอุตสาหกรรม โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถานประกอบการ โดยในสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อ ได้ปิดทำความสะอาด ใช้กลยุทธ์ Bubble and Seal ที่เคยใช้และประสบความสำเร็จใน จ.สมุทรสาคร จัดตั้ง Factory Quarantine เพื่อกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสภายในโรงงาน เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดและป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวและชุมชน
 

นอกจากนี้ หน่วยงานท้องถิ่นได้สำรวจคัดกรองในชุมชนเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ นำเข้าสู่ระบบการรักษาตามอาการโดยเร็ว ตามกลุ่มอาการที่เหมาะสม ส่วนผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อจากหน่วยบริการต่างๆ นอกจังหวัด เช่น สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลในเขต กทม. จะรับกลับเข้ารักษาใน จ.สมุทรปราการ  โดยผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ (กลุ่มสีเขียว)จะเข้ารับการรักษาใน Hospitel ส่วนผู้ที่มีอาการ (กลุ่มสีเหลือง) และมีอาการหนัก(กลุ่มสีแดง) จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ภายในจังหวัด ทั้งนี้ได้ปรับการให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยที่มีอาการเร็วขึ้น

ส่วนภาพรวมสถานการณ์เตียงใน จ.สมุทรปราการ ทั้งภาครัฐ และเอกชน มีเพียงพอสำหรับผู้ติดเชื้อ Hospitel ประมาณ 2,000 เตียง ขณะนี้ว่างอยู่ ประมาณร้อยละ 40  อย่างไรก็ตามอีกมาตรการควบคุมโรคที่จะมีประสิทธิภาพสูงสุดประชาชนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดอัตราการป่วยที่รุนแรงและการเสียชีวิต โดย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่รวมถึงแรงงานต่างชาติ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน คาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 5,000 คนต่อวัน เดือนละ 1.5 แสนคน โดยเตรียมพร้อมรับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม และ Walk in

“กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหาและสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ไว้เพียงพอสำหรับรักษาผู้ป่วย รวมทั้งเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ดูแลผู้ติดเชื้อ ส่วนวัคซีนได้กระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนทุกคน ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด และทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดลดอัตราการเจ็บป่วยที่รุนแรงและการเสียชีวิต และขอให้มั่นใจว่า วัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้มีความปลอดภัย ไม่ด้อยกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ ขออย่าให้หลงเชื่อคำกล่าวอ้างที่ไม่มีข้อยืนยันเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน โดยอาการข้างเคียง อาจเกิดขึ้นได้บ้าง แต่กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบเฝ้าระวังติดตามอาการไว้แล้วเพื่อความปลอดภัย”นายอนุทิน กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 พ.ค. 2564 เวลา : 18:01:28
15-06-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 15, 2025, 2:41 am