วันนี้ (6 กรกฎาคม 2564) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคศพรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ เบื้องต้น 20 ล้านโดส โดยมอบให้อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้ลงนามในสัญญา โดยให้เป็นไปตามข้อสังเกตของอัยการสูงสุด ในการไปดำเนินเจรจาหรือพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของสัญญาได้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงระหว่างกรมควบคุมโรคที่จะไปหารือกับบริษัทผู้ผลิตอีกครั้งนอกจากนั้นเห็นชอบข้อตกลงกับทางสหรัฐอเมริกา ที่จะมอบวัคซีนไฟเซอร์อีกจำนวนหนึ่งให้เป็นความช่วยเหลือกับประเทศไทย เพิ่มเติม
นายอนุชา กล่าวว่า ครม.เห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้ดำเนินการจัดหาและลงนามในการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเอง ต่างจากยี่ห้อไฟเซอร์ ที่เป็นวัคซีนหลักที่รัฐต้องจัดหาและฉีดให้ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กรณีที่ครม. มีมติอนุมัติลงนามสัญญาซื้อวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 20 ล้านโดส นั้นจะมีการนำเข้าประเทศไทย ภายในไตรมาส 4 หรือภายในเดือนตุลาคม 2564
ก่อนหน้านี้ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงข่าวถึงการฉีดวัคซีนโควิด ช่วงหนึ่งได้เผยถึงวัคซีนไฟเซอร์ โดยผู้สื่อข่าวถามว่าอนาคตจะนำเข้าวัคซีน mRNA เป็นตัวหลักฉีดให้ประชาชนหรือไม่ นพ.อุดมกล่าวว่า ศบค.กำหนดแล้ว เราเลือกไฟเซอร์ที่เป็นราชการให้ฟรี แต่เนื่องจากสั่งแล้วไม่ได้มาทันที เพราะตอนนี้แย่งกันมาก อย่างไต้หวัน ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ที่ใช้ไฟเซอร์เป็นตัวแรกๆ ตอนนี้ยังไม่ได้ครบ ทั้งที่ฉีดมาก่อนและคนก็น้อยกว่าเรา เพราะไม่มีวัคซีนส่งไป
ฉะนั้น ไฟเซอร์จะเข้ามาเร็วที่สุด ต.ค.นี้ ซึ่งต่างชาติเขาไม่ค่อยผิดสัญญา แต่เขาบอกว่าจะส่งให้ไตรมาส 4 ซึ่งมีเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. แต่เขาไม่เคยบอกว่าจะมาวันที่ 1 ต.ค. จึงอย่าทึกทักเอาเอง อย่างไรก็ตาม เราสั่งไฟเซอร์ 20 ล้านโดสให้ประชาชนฟรี และจะไปเร่งฉีดเข็ม 1 และ 2 ให้คนไทยได้ 70% ให้มากที่สุด
ขอบคุณ : ข้อมูลจากมติชนออนไลน์
ข่าวเด่น