วันนี้ (16 สิงหาคม 2564) ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวนการ ศบค.เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ดังนี้

1.คงระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและตามมาตรการเดิมที่จะครบกำหนดการประเมินในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564
แต่มีมติเห็นชอบปรับมาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด (สีแดงเข้ม) โดยให้เปิดกิจการธนาคาร/สถาบันการเงินในห้างสรรพสินค้าได้ ส่วนธุรกิจสื่อสารและเครื่องใช้ไฟฟ้ายังไม่อนุญาต
นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบให้ประชาชน องค์กร สถานประกอบการ สามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้ โดยรัฐสนับสนุนให้มีการใช้อย่างทั่วถึง และเน้นย้ำให้ประชาชนใช้การป้องกันตนเองของประชาชนในทุกกรณี (Universal Prevention Prevention)
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบตั้งศูนย์บริหารการสื่อสารในภาวะวิกฤต มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าศูนย์ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นเลขานุการ นายเสรี วงษ์มณฑา และนายเกษมสันต์ วีรกูล เป็นบรรณาธิการบริหาร โดยทำหน้าที่วางกลยุทธ์การสื่อสาร ศบค. เชื่อมโยงการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามประมวลข้อมูลข่าวสาร วางยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุก – เชิงรับ กำหนดประเด็นเพื่อสื่อสารประชาชน วางกลยุทธ์ กำหนดเวลาความถี่ กำหนดผู้ให้ข้อมูล ชี้แจ้ง
ข่าวเด่น