หาจังหวะ Short เมื่อทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน
หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up
ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวลงก่อนในช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.33%
โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ประธานเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% และหากเศรษฐกิจมีความคืบหน้าตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เตรียมปรับลดวงเงิน QE ในไม่ช้าส่งผลให้ทองคำลดช่วงบวกลง เนื่องจากการปรับลด QE จะทำให้อุปทานเงินดอลลาร์ลดลง ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันต่อราคาทองคำ
ทั้งนี้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากบริษัทเอเวอร์แกรนด์ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด เตือนว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดังนั้น ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,730-1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน เนื่องจากเฟดเตรียมปรับลดวงเงิน QE ลงภายในปลายปีนี้ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง โดยในปี 2013 ที่มีการปรับลดวงเงิน QE ราคาทองคำจะปรับตัวลงและแตะจุดต่ำสุด ณ เดือนที่เฟดมีการปรับลดวงเงิน QE
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.ย.) ดัชนีปรับตัวขึ้น เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยปัจจัยบวกหลักมาจากหุ้น SCB มีการการปรับโครงสร้างของบริษัท ที่จะมีการปลดล็อคมูลค่าแฝงของบริษัทลูก ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธนาคารตัวอื่นๆ ปรับตัวขึ้นด้วย
ประกอบกับในคืนที่ผ่านมาในการประชุม FED ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจนในการลด QE รวมไปถึงบริษัท Evergrande ที่ประธานบริษัทออกมาให้ความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ปัจจัยข้างต้นทำให้ตลาดคลายความกังวลไปบ้าง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,631.15 จุด +11.56 จุด +0.71% มูลค่าการซื้อขาย 140,498 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up หลังจากเฟด ไม่ได้ระบุไทม์ไลน์ที่ชัดเจนในการปรับลดวงเงิน QE ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารจากปัจจัยเฉพาะตัว คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,660 จุด
สำหรับสัปดาห์นี้สองหลักทรัพย์ที่น่าจับตามอง ได้แก่ TTB ดีดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อมมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ และ MACD พลิกตัวส่งสัญญาณบวก คาดราคามีโอกาสทดสอบต้านที่ 1.15-1.19 บาท มีแนวรับที่ 1.05 บาท มีจุด cut loss ที่ 1.03 บาท
และหุ้น PTTGC ทยอยไต่ระดับขึ้น โดยมี Volume สะสมต่อเนื่อง และ MACD เพิ่งพลิกตัด Signal Line ส่งสัญญาณซื้อ หากผ่านต้านแรกที่ 62.00 บาท จะมีต้านถัดไปแถว 64.25 บาท แนวรับอยู่ที 59.50 บาท และจุด cut loss อยู่ที่ 59.40 บาท
.jpeg)
ข่าวเด่น