สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำถูกกดดันต่อเนื่องจนย่อตัวหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สาเหตุมาจากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2.97% ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 103.00 ซึ่งแข็งค่าสุดในรอบ 20 ปี ทองคำจึงย่อตัวลงทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์มีประกาศตัวเลขGDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ที่ -1.4% สาเหตุหลักมาจากเงินเฟ้อสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกือบ 8% และการพแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้เศรษฐกิจโดยภาพรวมชะลอตัวลง เมื่อGDP ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้ทองคำมีแรงรีบาวด์กลับมาที่ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ SPDR มีแรงเทขายในสัปดาห์สุดท้ายกว่า 8.41 ตัน ทำให้เดือนเมษายน SPDR เข้าซื้อเพียง 4.28 ตัน
สัปดาห์นี้ต้องจับตามุมมองการประชุม FOMC ในสัปดาห์ซึ่งเป็นที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว คือ การขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.5% พร้อมทั้งลดขนาดงบดุลกว่า 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐอาจเริ่มย่อตัวลงแต่อาจยังทรงตัวระดับสูงต่อไป เนื่องจากราคาน้ำมันในเดือนมีนาคมเฉลี่ยทรงตัวเหนือระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ในเดือนเมษายนราคาน้ำมันแกว่งตัวบริเวณ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดอาจทำให้นโยบายการเงินมีประสิทธิภาพ แต่เศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงต่อเนื่องได้
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กประเมินว่า ช่วงต้นสัปดาห์ก่อนการประชุม FOMC ราคาทองคำอาจถูกกดดันต่อ แต่หากผลประชุมเป็นไปตามคาดตลาดจะผ่อนคลายเพิ่มขึ้น ส่วนเงินเฟ้อที่เริ่มอ่อนตัวจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยยังเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ ประเมินราคาทองคำ Sideway Down กรอบการซื้อขาย 1,850-1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนบรรยากสศการลงทุนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 เม.ย.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก แกว่งตัวในกรอบแคบ ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันหยุดในสัปดาห์หน้า มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนแรงขายมีเข้ามาในกลุ่มการแพทย์ ที่ขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า และนักลงทุนยังติดตามประเด็นสำคัญในต่างประเทศ อย่างการประชุมธนาคารกลางสหรัฐกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ช่วง 3-4 พ.ค. ถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,667.44 จุด -0.30 จุด -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 69,210 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยคาดปริมาณการซื้อขายเบาบาง ก่อนติดวันหยุด นักลงทุนยังจับตาการประชุมเฟดวันที่ 3-4 พ.ค. อย่างใกล้ชิด เพื่อดูนโยบายการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,690 จุด
สำหรับหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ได้แก่ SNNP ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 18.60 บาท กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ โดยมี Volume สะสม และ MACD เตรียมพลิกตัวส่งสัญญาณบวก หากผ่านต้าน 19.00 บาท ลุ้นทดสอบ High เดิมที่ 19.90 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 18.00 บาท และมีจุด cut loss ที่ 17.80 บาท
และหุ้น TIDLOR มีราคสปิดล่าสุดอยู่ที่ 18.60 บาท ทยอยไต่ระดับขึ้น โดย Volume เข้าสามวันติด และ MACD+Slow Sto. ส่งสัญญาณซื้อ หากผ่านต้านแรก 38.50 บาท ลุ้นทดสอบ High เดิมที่ 40.00 บาท มีแนวรับที่ 35 บาท และมีจุด cut loss ที่ 34.00 บาท
ข่าวเด่น