คาด SET เคลื่อนไหวระหว่างกรอบ โดยมีกรอบล่างที่ 1625-1630 จุด ส่วนกรอบบนอยู่ที่ 1640-1646 จุด เพื่อรอผลประชุมเฟด และถ้อยแถลงในช่วงดึกคืนวันนี้ เพื่อหาสัญญาณต่อทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต ขณะที่การปรับขึ้นของ Bond Yield สหรัฐ และดอลลาร์รวมถึงบาทอ่อนค่า จะเป็นปัจจัยกดดันดัชนีในวันนี้ให้ลงมาเคลื่อนไหวบริเวณกรอบล่าง
ประเด็นสำคัญ
• ดินแดน 4 แห่งที่รัสเซียยึดครองในยูเครนเตรียมลงประชามติรวมตัวเข้ากับรัสเซียอย่างเป็นทางการสัปดาห์หน้า ด้านยูเครนระบุเป็นการท าลายการเจรจา
• FedWatch Tool ระบุ นลท.ให้น้ำหนัก 82% ที่ Fed จะขึ้น ด.บ. 0.75% และ 18% คาดขึ้น ด.บ. 1% ในการประชุมวันนี้ ขณะที่ Bond Yield 2 ปี สูงสุดรอบ 15 ปี
• กฤษฎีกามีความเห็นดีล TRUE-DTAC ให้ยึดตามประกาศ กสทช.ปี 61 ไม่ต้องขออนุญาตจากกสทช. และหากเห็นว่ามีผลกระทบต่อสาธารณะให้ออกเงื่อนไข เพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภค คาด กสทช.จะประชุมวาระพิเศษเร็วๆ นี้
• ครม. เห็นชอบขยายเวลาชาวต่างชาติพ านักในไทย แบบ VoA ขยายเป็น 30 วัน และที่ยกเว้นวีซ่าขยายเป็น 45 วัน, เลื่อนการเก็บภาษีน้ำตาล เฟส 3 ออกไปถึง31 มี.ค. 66, ลดเงินสมทบประกันสังคมนายจ้าง-ลูกจ้างเหลือ 3% ต.ค.-ธ.ค.65
• ม.หอการค้าไทยคาดเทศกาลกินเจปีนี้มีการจับจ่ายรวม 4.2 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นกว่า 5.2% ปชช. ส่วนใหญ่มอง ศก. ยังไม่ฟื้น-ระมัดระวังการจับจ่าย
• รองนายกฯ สั่งก.คลังหารือ ธปท.เพื่อพยุงค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ ด้าน สรท. คาดบาทไม่น่าอ่อนค่าถึง 38 บาทต่อดอลลาร์
• ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ก.สาธารณสุขยกเลิกโควิด-19 ออกจากโรคติดต่ออันตราย ปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. 65
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ โดยเชื่อว่าตลาดจะปรับตัวได้ดีขึ้นหลังการประชุมของเฟดในสัปดาห์นี้ หากการคาดการณ์เศรษฐกิจและ Dot plot ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ/หรือ หากรับความเสี่ยงได้อาจเก็งกำไร จากผลการประชุมของเฟดที่คาดจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ก.ย. นี้
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นยังมี Upside จำกัด เนื่องจากอยู่ระหว่างจับตาการส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด จึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเป็นความเสี่ยงตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นใน ก.ย.-ต.ค. เลือก HMPRO GLOBAL CPALL BJC TASCO
2) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไรจากผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21 ก.ย. นี้ แบ่งเป็น
2.1) กรณีคาดเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่อง 100bps และ dot plot ปี 2566 คงที่หรือปรับเพิ่มขึ้น แนะนำ หุ้น Defensive เลือก ADVANC BDMS BLA
2.2) กรณีคาดเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด 75bps และ/หรือ dot plot ปี 2566 ปรับตัวลดลง แนะนำหุ้น Cyclical เลือก KTB PTT KCE
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
2) หุ้นที่คาดได้ Sentiment ลบจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ อาทิ CPF GFPT ซึ่งปกติราคาหุ้นมักปรับตัวลงในช่วงดังกล่าว
Daily Focus
BLA มองจะได้รับประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและคาด combined ratio จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากการเน้นออกผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้น หนุนให้ปี 2565-2567 กำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
HTC เป็นหนึ่งในหุ้นเครื่องดื่มที่ได้อานิสงส์บวกจาก ครม.เลื่อนขึ้นภาษีน้ำตาลเฟส 3 ออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง อีกทั้งยังมีจุดแข็งด้านจ่ายเงินปันผลสม่ำาเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปีละราว 5.5-6% และยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งระดับ D/E ต่ำที่ 0.5 เท่า
ข่าวเด่น