คาด SET ปรับตัวลง หลังผลประชุมเฟดแม้ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด แต่ระบุยังจำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อ และปรับ Dot Plot ขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์แข็ง และบาทอ่อนค่า เป็นลบต่อ fund flow นอกจากนี้สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนกลับมาตึงเครียดเป็นปัจจัยลบด้วย ด้านดัชนีมีแนวรับถัดไปที่ 1625 และ 1615 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• FOMC มีมติขึ้น ด.บ. 0.75% ส่วน Dot Plot ขึ้นมาอยู่ที่ 4.4% ณ สิ้นปีนี้ และ 4.6% สิ้นปีหน้า โดยคาดจะไม่มีการปรับลด ด.บ.จนกว่าจะถึงปี 2567 เช่นเดียวกับปธ. Fed ยืนยันเดินหน้าปรับขึ้น ด.บ.ต่อปีหน้าเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
• ปธน.รัสเซียประกาศระดมพล-ยกระดับทำสงครามในยูเครน โดยระบุว่าจะผนวกทุกดินแดนที่ทหารรัสเซียยึดครองสำเร็จ
• จีนระบุพร้อมตอบโต้ หลังเรือรบสหรัฐ-แคนาดาแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน
• รมว.คลัง เตรียมนัดหารือ ธปท. หลังบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บ./ดอลลาร์ ด้าน ธปท. ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ยังไม่พบความผิดปกติเงินทุนเคลื่อนย้าย
• ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 23 ก.ย. พิจารณายกเลิกมาตรการกักตัวผู้ป่วยอาการน้อย-ไม่แสดงอาการ ให้ปฏิบัติตาม DMHT 5 วันแทน หนุนภาคการท่องเที่ยว
• ททท.-สมาคมโรงแรมไทย ระบุการขยายวีซ่า เริ่ม 1 ต.ค. นี้ ส่งผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยวไทยอย่างมีนัยฯ และช่วยหนุนอัตราเข้าพักโรงแรมให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
• สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เตรียผลักดันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน ทำให้ราคา E20 ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ราว 3 บ./ลิตร
• ศาล รธน.ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องแผน PDP ปี 61-80 ส่งเอกสารคำชี้แจงเพิ่ม คาดใช้เวลาพิจารณา 4 เดือน
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองช่วงสั้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะถูกกดดันจากกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีมากขึ้น หลังเฟดส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นจะผันผวนสูงและมี Upside จำกัด หลังเฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรง จึงเน้นเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเป็นความเสี่ยงตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นใน ก.ย.-ต.ค. เลือก HMPRO GLOBAL CPALL BJC TASCO
2) หุ้นเชิงรับที่ไม่อิงเศรษฐกิจโลกมากนักหลังเฟดส่งสัญญาณ dot plot ปี 2566 ปรับขึ้นมากกว่าที่คาด เลือก ADVANC BDMS BLA
เรามองว่าเมื่อคืนนี้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบ front load คือ ดอกเบี้ยจะเร่งขึ้นในปี 2565 แต่จะผ่อนคันเรงในปี 2566 และลดดอกเบี้ยในปี 2567 ขณะที่ ศก.สหรัฐมีโอกาสสูงขึ้นที่จะถดถอยในปีนี้-ปีหน้า อย่างไรก็ดีมองเป็นการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้นักลงทุนจะลดความกังวลในการปรับขึ้นดอกเบี้ยลงและหันมาเน้นลงทุนในสินทรัพย์/ตลาดที่มีความแข็งแกร่ง ต้านทานดอกเบี้ยขาขึ้นและการชะลอตัวของศก.ได้
ส่วนความเสี่ยงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เพิ่มขึ้น หลังปธน.ปูตินประกาศระดมกำลังพลเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครน มองว่าอาจส่งผลให้ EU/ G7 ยกระดับมาตรการคว่ำบาตรเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ราคาพลังงานและสินค้าเกษตร (ข้าวสาลี ข้าวโพด) ผันผวนและยืนอยู่ในระดับสูงจากความกังวลด้านอุปทาน อย่างไรก็ตามประเด็นเศรษฐกิจโลกชะลอตัวยังเป็นปัจจัยจำกัดการปรับตัวขึ้นแรงของราคาในระยะสั้น
Daily Focus
BDMS หุ้น Defensive ซึ่งกำไร 2H65 แนวโน้มเพิ่มขึ้น หนุนจากบริการที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 โดยเฉพาะตลาดผู้ป่วยต่างชาติ คาดปี 65 กำไรปกติเติบโต 43% สู่ 1.1 หมื่นลบ. สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 Valuation ยังน่าสนใจ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น +7.3% น้อยกว่า BH ที่ +16.7%
ADVANC เป็นหุ้นปลอดภัยในช่วงที่ตลาดผันผวน เนื่องจากพื้นฐานธุรกิจมั่นคง มีกระแสเงินสดดี และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลดีที่สุดในกลุ่ม โดยปี 2565 คาดมีกำไรปกติที่ 2.83 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 2.7% YoY ช่วงสั้นจัดเป็นอีกหุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ iPhone 14
ข่าวเด่น