คาด SET การฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1620-1625 จุด และในช่วงสั้นดูยังมี downside จากแรงขายทำกำไร และตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ รวมถึงทิศทาง fund flow กลับมาไหลออก ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1605-1610 จุด
ประเด็นสำคัญ
IMF คาด GDP โลกปีนี้ขยายตัวชะลอลงที่ 3.2% ส่วนปีหน้าคาด +2.7% ขณะที่ไทยปีนี้คาดขยายตัว 2.8% ส่วนปีหน้าคาด +3.7%
จีนพบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตรายแรกในรอบเกือบ 6 เดือน ติดเชื้อใหม่วันเดียวสูงถึง 2.4 หมื่นราย
นลท. ยังจับตาถ้อยแถลง ปธ. Fed ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ ปธ. Fed สาขาบอสตันและสาขาเซนต์หลุยส์หนุนขึ้น ด.บ. ส่วน ปธ. Fed สาขาแอตแลนตาหนุนชะลอขึ้น ด.บ.
วันนี้สภาพัฒน์รายงาน GDP 3Q65 คาดขยายตัว 3.1%YoY ดีขึ้นจาก 2Q65 ที่ขยายตัว 2.5%YoY
จับตา 29 พ.ย. ครม. พิจารณาโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5, คนละครึ่งเฟส 6 และ ช้อปดีมีคืน เป็นของขวัญปีใหม่ประชาขน
ททท. คาด ปธน. จีน ร่วมประชุมเอเปคครั้งนี้ส่งสัญญาณดีให้ นทท.จีนกลับมาไทยได้เร็วกว่าที่เอกชนคาดกันไว้ราวหลังเดือน มี.ค. 66
นีลเส็นรายงานภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา 10 เดือน เงินสะพัด 9.8 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 10.48%YoY
กรมอุตุฯเตือนฝนตกหนักทั่วไทย ระวังน้ำท่วมฉับพลัน 21-24 พ.ย.นี้
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวแคบและมีโอกาสพักตัว หลัง Fund Flow ยังมีแนวโน้มไหลออกและตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ อาทิ GDP 3Q65 ของไทยและรายงานการประชุม FOMC ที่ตลาดมองหาสัญญาณการเปลี่ยนท่าทีการทำนโยบายการเงิน ดังนั้นกลยุทธลงทุนจึงแนะนำเป็น “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ เลือก BBL GULF MAKRO CRC SPALI AOT
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จีนมีแนวโน้มเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งคาดหนุนท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เลือก MINT ERW / SCGP IVL
3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) ซึ่งคาดกระตุ้นบรรยากาศการบริโภคในช่วงเชียร์บอล เลือก CPALL CENTEL MINT
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
MAKRO กำไรปกติ 4Q65 คาดจะอยู่ในระดับทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY เนื่องจากมองยอดขายที่ดีขึ้น (SSS เติบโตและรายได้ค่าเช่าดีขึ้นใน 4Q65TD) จะมากเกินพอชดเชยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
SCGP 4Q65 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ อันเป็นผลมาจากมาร์ จิ้นที่กว้างขึ้น โดยได้แรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล รวมทั้งต้นทุน RCP และต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มลดลงในระยะหลังนี้
ข่าวเด่น