คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1670-1690 จุด ไปจนถึงอ่อนตัวได้ โดยเฉพาะหากหลุดต่ำกว่า 1670 จุด ลงมา จะสร้างสัญญาณลบ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ และสัปดาห์นี้มีประเด็นสำคัญ สำหรับการประชุมธนาคารกลางสำคัญของโลกถึง 3 แห่ง ได้แก่ Fed ECB และ BoE ด้านภาพรวมมองดัชนีเข้าสู่การปรับฐาน และยังมี downside อยู่
ประเด็นสำคัญ
จับตาการประชมธนาคารกลาง 3 แห่งในสัปดาห์นี้ เริ่มจาก Fed ประชุม 31 ม.ค. – 1 ก.พ. ตลาดคาดปรับขึ้นเพียง 0.25% ตามด้วย ECB และ BoE ประชุมตรงกันในวันที่ 2
ก.พ. โดยตลาดคาดทั้ง 2 ธนาคารกลางจะปรับขึ้น ด.บ. 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
GDP 4Q65 ของเยอรมนี -0.2%YoY หดตัวเกินคาด ส่งสัญญาณบ่งชี้ ศก. ยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยตามที่คาดการณ์
สทท.ระบุดัชนีเชื่อมั่นท่องเที่ยว Q4/65 ฟื้นต่อเนื่อง แต่ยังต่ำกว่าก่อนเกิดโควิด คาด นทท.ต่างชาติเที่ยวไทย 30 ล้านคน รายได้รวมจากตลาดทั้งในและ ตปท. กว่า 3 ล้านลบ.
ก.ท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอ ครม. 7 ก.พ. นี้ พิจารณาอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียม นทท. ต่างชาติเข้าประเทศทางอากาศ 300 บาท/คน ทางบก-น้ำ 150 บาท/คน และเสนอขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี 4
JD.com แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่จากจีน ประกาศถอนลงทุนในไทย โดย JD CENTRAL จะยุติให้บริการตั้งแต่ 3 มี.ค. นี้ เนื่องจากเปลี่ยนกลยุทธ์ใน ตปท. ไปสู่บริการซัพพลายเชนและโลจิสติกส์
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงพักตัวและมี Upside จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมี Valuation ตึงตัวและขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงยังแนะนำ “Selective Buy”
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นที่มอง SET ยังมี Upside จำกัด จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่คาดจะออกมาอ่อนแอ และมี Valuation ตึงตัว จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้รับอานิสงส์เม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากการเข้าใกล้สู่ช่วงการเลือกตั้งของไทย เลือก BEC CENTEL CPN MAJOR
2) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q65-1Q66 มีแนวโน้มเติบโตดี เลือก ERW MINT BLA BEM CPALL CRC MAKRO
3) กรณีเฟดปรับขึ้น 50bps และ/หรือ ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากกว่าตลาดคาด มองตลาดจะปรับตัวลง แนะนำกลับมาเล่นหุ้น defensive เลือก ADVANC BDMS BEM GULF (หากเฟดขึ้น 25bps และ dot plot ไม่เปลี่ยน จะเป็นไปตามตลาดคาด มองจะไม่มีผลต่อตลาด)
ช่วงสั้นยังแนะนำเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงกดดันผลประกอบการ ดังนี้
1) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
2) หุ้นขุดเหมือง แม้ช่วงสั้นจะได้รับ sentiment บวกจากการปรับขึ้นของ Bitcoin แต่ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุน เนื่องจากมีต้นทุนไฟฟ้าที่สูง ทำให้ผลประกอบการมีความเสี่ยงขาดทุน
Daily focus
GFPT 4Q65 คาดกำไรปกติที่ 475 ลบ. เพิ่มขึ้นจากกำไรปกติ 14 ลบ. ใน 4Q64 โดยได้แรงหนุนจากยอดขาย มาร์จิ้น และส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้น แต่ -36% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
SCGP ปี 66 คาดกำไรเติบโต 22%YoY จากการรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำและปริมาณการขายที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นใน 1H66 โดยจะปรับตัวเพิ่มมากขึ้นใน 2H66 จากการเปิดประเทศของจีน
ข่าวเด่น