ประกัน
"ทิพยประกันภัย" มั่นใจปีนี้คว้าเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวม เติบโต 8% เบี้ย 3.5 หมื่นล้าน


“ทิพยประกันภัย” ตั้งเป้าคว้าเบี้ยประกันภัยรับรวมปีนี้ เติบโต 8% เบี้ย 3.5 หมื่นล้าน เติบโตเป็น 2 เท่าของอุตสาหกรรม เผยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 1.6 หมื่นล้าน เติบโต 12.3% แย้มพอร์ตลงทุนปัจจุบัน 1.8 หมื่นล้าน โฟกัสหุ้นปันผลดี ไม่หวือหวาราคาขึ้นลง

 
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึงเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมในปีนี้คาดจะเติบโต 8% มีเบี้ยประกันภัยรับรวม อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยการเติบโตจะสูงเป็น 2 เท่าของอุตสาหกรรมวินาศภัยที่เติบโตเฉลี่ย 3.7-4.2% ซึ่งครึ่งปีแรก 2566 เติบโตไปแล้ว 12.3% มีรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวม 16,269.8 ล้านบาท รักษาตำแหน่ง Top Gainer ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับตรง เพิ่มขึ้นถึง 1,724.5 ล้านบาท สูงที่สุดในธุรกิจประกันวินาศภัย ประกอบกับมีรายได้และกำไรจากเงินลงทุนรวม 484.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ TIP มีกำไรสุทธิรวม 1,001.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 664.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 197.8 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน

“เราคิดว่าปีนี้น่าจะเติบโตได้ 8% แน่นอน เพราะเบี้ยก้อนใหญ่จะมาช่วงครึ่งปีหลัง โดยเข้ามาตอนปีงบประมาณต้นเดือนตุลาคม 2566 ถ้าไม่มีอะไรแจ็คพอตช่วงปลายปี ผลการดำเนินงานน่าจะดีมาก”ดร.สมพรระบุ

ดร.สมพรกล่าวว่า สำหรับพอร์ตการลงทุน ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนดีขึ้น ที่ 2% กว่าๆ จากสิ้นปีก่อนมีผลตอบแทนจากการลงทุน 2% โดยนโยบายการลงทุนยังเน้นลงทุนในพันธบัตรและเงินฝาก โดยการลงทุนในหุ้นจะเน้นหุ้นที่จ่ายปันผลดี จ่ายต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 5 ปี ไม่เน้นหุ้นหวือหวา ราคาขึ้นลง ซึ่งหุ้นในกลุ่มที่น่าสนใจ คือ พลังงาน ไฟแนนซ์ อุปโภคบริโภค โดยงบลงทุนในหุ้นจะไม่เกิน 20% หรือ 3,600 ล้านบาท ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังลงทุนไม่ถึง 10%

“เราไม่กล้าไปลงทุนในตลาดหุ้นมากนัก แต่จะโฟกัสเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี จ่ายปันผลดีและสม่ำเสมอ ไม่ใช่หุ้นที่หวังราคา ขึ้นๆลงๆ โดยหากมีจังหวะหุ้นที่เงินปันผลดีๆ ราคาลง เราก็ไปเก็บช้อนซื้อเข้าพอร์ต”ดร.สมพรกล่าว
 
ดร.สมพรกล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการลงทุนของ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงเดินหน้าคว้าโอกาสโตในระดับภูมิภาค พร้อมขยายขีดความสามารถของการสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Healthcare ที่มีปัจจัยสนับสนุนจากเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพในหลายด้าน ที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตต่อเนื่องในอนาคตและกลุ่มธุรกิจ Automotive ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) และความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมตามหลักการ ESG ที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐสนับสนุนนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอีกทั้งยังมีความเกี่ยวโยงกับธุรกิจประกันสุขภาพและประกันรถยนต์  ดังนั้นจะเป็นโอกาสที่จะเสริมศักยภาพให้ธุรกิจประกันภัย เพื่อผลักดันกลยุทธ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2566 ของ TIPH มีกำไรสุทธิ 960.3 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.62 บาท ในส่วนบริษัทย่อยภายใต้กลุ่มธุรกิจสนับสนุนประกันภัย (TIP ISB) มีกำไรสุทธิรวม 26.0 ล้านบาท เติบโต 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

โดย บริษัท ดีพี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด หรือ DP Survey มีกำไรสุทธิ 18.2 ล้านบาท บริษัท อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์ จำกัด หรือ Amity มีกำไรสุทธิ 6.7 ล้านบาท และบริษัทศูนย์ฝึกอบรมทิพย จำกัด มีกำไรสุทธิ 1.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ TIPH ในปีนี้ สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันและการขยายฐานลูกค้า รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ในวันที่ 9 กันยายน 2566 TIPH จะเปิดบริษัท InsurVerse ซึ่งซื้อไลเซนส์หรือใบอนุญาตมาจากเอราวัณประกันภัย เพื่อเปิดให้บริการประกันภัยดิจิทัล ภายใต้แบรนด์ “InsurVerse” โดยเริ่มขายประกันภัยรถยนต์กับแนวคิด “Move on สู่ประกันรถยนต์ที่ถูกทุกข้อ ฟอร์คนเจนใหม่” เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ และทุกไลฟ์สไตล์ตามความต้องการของลูกค้าในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยออนไลน์ได้ง่าย สะดวกสบาย และเชื่อมต่อการให้บริการเคลมด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และมีความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่

“ประกันภัยดิจิทัล InsurVerse จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 เดือน 9 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นฤกษ์ที่ดี แต่เบื้องต้นจะนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Thailand InsurTech Fair 2023 (TIF2023) วันที่ 8-10 ก.ย.นี้ ที่บูธทิพยประกันภัย ฮอลล์ 7 อิมแพคเมืองทองธานี เพื่อให้ลูกค้าไปลองใช้แอพพลิเคชั่นของเรา เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ซื้อประกันภัย”ดร.สมพรกล่าว

ดร.สมพรกล่าวต่อไปว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ InsurVerse จะเน้นเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าที่เป็น Digital Natives ซึ่งมีการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัย 5,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปี จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ส่วนความคืบหน้าของธุรกิจภายใต้กลุ่มธุรกิจ TIPH มีความก้าวหน้าหลายประการ อาทิ การบุกตลาดธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝากของ บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด ที่สามารถขยายฐานลูกค้าและสินเชื่อทั่วประเทศได้ตามแผนภายในครึ่งปีแรก พร้อมกับจับมือร่วมกับ DP Survey ในการให้บริการสำรวจทรัพย์สินค้ำประกันสินเชื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวก และเสริมสร้างความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อ อีกทั้งได้จัดตั้งบริษัท เงินดีดี จำกัด หรือ “Good Money” ร่วมกับธนาคารออมสิน เพื่อรุกธุรกิจ Non-Bank ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล นาโนไฟแนนซ์ และ Digital Lending สร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ดอกเบี้ยเป็นธรรมโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด 3-5% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้

 
ดร.สมพรกล่าวทิ้งท้ายว่า ในแง่ของการเป็นบริษัทที่ดีมีความน่าเชื่อถือของบริษัททิพยประกันภัย ประกอบกับการบริการที่ดีใส่ใจดูแลลูกค้า การมีกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่มวัยและในทุกความต้องการ เป็นการออกแบบประกันเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ใช่ประกันเดียวใช้ได้หมดทุกอย่าง รวมถึงการจัดการสินไหมที่รวดเร็วและสะดวก สิ่งต่างๆเหล่านี้ บริษัทฯนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทำให้บริษัทฯมีการพัฒนาอย่างมาก เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและมีการแนะนำบอกต่อ ผมในฐานะผู้บริหารสูงสุด อยากให้ลูกค้าจดจำชื่อบริษัททิพยประกันภัย ที่เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและไว้ใจ และเมื่อใดที่มีความต้องการบริหารความเสี่ยงด้านประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ประเภทใด ทั้งประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ประกันสุขภาพ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยไซเบอร์ ฯลฯ ลูกค้าจะต้องนึกถึงทิพยประกันภัย และทำประกันภัยกับทิพยประกันภัย ไม่ใช่เป็นเพราะโบรกเกอร์แนะนำ สิ่งนี้ถึงจะประสบความสำเร็จ และเป็นเป้าหมายของผมในฐานะซีอีโอ

“ผมมีอยู่เคสหนึ่งเรื่องประกันภัยรถยนต์ ที่รถคู่กรณีมีการขอย้ายการทำประกันรถยนต์ เปลี่ยนมาทำประกันกับทิพยประกันภัยแทน หลังจากเห็นเรื่องการบริการ การจัดการสินไหม และความใส่ใจของเจ้าหน้าที่สำรวจภัยของทิพยประกันภัยในจุดเกิดเหตุ ฉะนั้นเราจะไม่หยุดยั้งในการให้บริการที่ดีด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้การบริการดีสะดวกรวดเร็ว”ดร.สมพรกล่าว

LastUpdate 12/08/2566 20:39:55 โดย : Admin
13-07-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 13, 2025, 8:58 pm