.jpg)
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์ในปีหน้า หนึ่งในแผนจะมุ่งเน้นด้านความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นพาร์ทเนอร์หลักในช่องทางการขายผ่านแบงก์แอสชัวรันส์ ทั้งธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) และธนาคารยูโอบี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุน ให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการกลุ่มลูกค้าของแต่ละธนาคาร เพื่อให้ธนาคารทหารไทยธนชาตและธนาคารยูโอบีนำไปเสนอขายผลิตภัณฑ์กรมธรรม์กับลูกค้าตนเอง
“ทั้ง TTB และ UOB มีความเก่งและเชี่ยวชาญในธุรกิจบริการทางการเงินที่แตกต่างกัน โดย TTB จะเก่งและเชี่ยวชาญทางด้านรีเทลหรือรายย่อย ทั้งสินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิต ขณะที่ UOB จะไฮเน็ตเวิร์กและเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ทำให้มีฐานลูกค้าแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันและมีความต้องการกรมธรรม์ที่ไม่เหมือนกัน จึงเป็นโจทย์ที่เราต้องหาความต้องการแต่ละกลุ่มให้เจอ และนำเสนอกรมธรรม์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม”นายบัณฑิตกล่าว
นายบัณฑิตกล่าวต่อไปว่า นอกจากช่องทางการขายผ่านแบงก์แอสชัวรันส์แล้ว บริษัทจะพัฒนาช่องทางการขายอื่นให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพราะเป้าหมายคือต้องการเติบโตในทุกช่องทางอย่างเข้มแข็ง
สำหรับเทรนด์ผลิตภัณฑ์ประกันในปีหน้าที่มาแรง นายบัณฑิตเชื่อว่า ประกันสุขภาพ และ Unit Linked หรือ ประกันชีวิตควบการลงทุน จะเติบโตได้อย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันคนให้ความสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น และประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Ageing Society) ประกอบกับคนไทยชอบการออมที่มีผลตอบแทนที่ดี
“การแข่งขันทางการตลาดของธุรกิจประกันชีวิตน่าจะเข้มข้นมากขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะเรื่องการดูแลลูกค้า ที่ทุกบริษัทจะเข้ามาแข่งขันกันอย่างมาก เพื่อทำอย่างไรที่จะไปยืนอยู่ในใจลูกค้าได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามลูกค้าในปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ได้ต้องการสินค้าที่ดีอย่างเดียว แต่เขาดูด้วยว่าบริษัทที่จะซื้อประกันมีความรับผิดชอบต่อสังคมหรือไม่ เอากำไรไปทำอะไรที่มีส่วนให้สังคมยั่งยืนหรือไม่ ทั้งการช่วยเหลือสังคม และการลดความเหลื่อมล้ำ ฉะนั้นแนวทางที่พรูเด็นเชียลวางกรอบการดำเนินงานด้าน ESG สู่การปฏิบัติจริงในทุกส่วนธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือสังคมด้วยแนวคิด Igniting Business with ESG : จุดประกายธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ ด้วยกลยุทธ์ ESG” มุ่งสร้างผลลัพธ์ เชิงบวกในสังคมไทยผ่านโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนด้านการศึกษา สุขภาพ หรือ สิ่งแวดล้อม และกับแคมเปญล่าสุด “การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้” ส่งต่อการให้จากองค์กรสู่สังคม จึงเป็นแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมในยุคใหม่ที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งจากสภาวะความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความไม่เสมอภาค ความเหลื่อมล้ำในสังคม” นายบัณฑิตกล่าว
สำหรับประเด็นความท้าทายของธุรกิจประกันชีวิตในปีหน้า นายบัณฑิตมองว่าจะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่คาดเดาไม่ได้ ขณะที่ธุรกิจประกันชีวิตมีสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการออมระยะยาว 10 ปี 20 ปี ฉะนั้นต้องวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ถูกเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ที่เป็นผลตอบแทนที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยตามที่สัญญาไว้
“ฉะนั้นความท้าทายคือต้องมองและวิเคราะห์ให้ขาดและถูกต้อง ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะเป็นเช่นไร ดอกเบี้ยจะลดต่ำลงเมื่อไร เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย”นายบัณฑิตกล่าว
ข่าวเด่น