ประกัน
"วิริยะประกันภัย" ปรับเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้ โต 2-3% พอร์ตเบี้ย 4 หมื่นล้าน เหตุศก.ซบ-ยอดขายรถตก แก้เกมเพิ่มตัวแทนนายหน้า 200 ราย ลุยพื้นที่กรุงเทพ


นายดลเดช สัจจะวีระกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบันที่ซบเซา และตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัว ขณะที่มีการแข่งขันทางการตลาดในธุรกิจประกันที่รุนแรง เพื่อช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์ ส่งผลกระทบต่อยอดเบี้ยรับประกันภัย ทำให้บริษัทจำเป็นต้องปรับลดเป้าเบี้ยรับรวมประกันภัย ปี 2567 ให้มีการเติบโต ในระดับ 2-3% หรือคิดเป็นเบี้ยรับประกันภัยที่ 40,000 ล้านบาท ลดลงจากเมื่อต้นปี 2567 ที่ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมไว้ที่ 43,000 ล้านบาท หรือเติบโต 6% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน 

 
อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีแรก 2567 แม้การแข่งขันจะรุนแรง แต่บริษัทฯ สามารถผลิตเบี้ยรับรวมได้ถึงระดับ 22,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน่าพอใจที่ยังสามารถรักษายอดขายได้อย่างมั่นคง 

สำหรับกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทฯ จะเพิ่มเบี้ยใหม่เพื่อให้เป็นไปตามเป้า ผ่าน 2 ช่องทางการขายหลัก
 
1.ผ่านช่องทางการขายจากตัวแทนหรือนายหน้าบุคคลธรรมดา ซึ่งปัจจุบันสร้างเบี้ยประกันได้ในสัดส่วน 30% ของเบี้ยรับรวม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดาอยู่ราว 3,400 ราย มากที่สุดในอุตสาหกรรมฯ โดยจะเพิ่มจำนวนตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดารายใหม่อีก 200 ราย เน้นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมองว่ากรุงเทพมหานครยังมีช่องว่างอยู่อีกพอสมควรที่จะเข้าไปเจาะตลาด และจะทำให้การบริการประกันของบริษัทฯครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย 

2. ช่องทางนายหน้านิติบุคคล ซึ่งมีสัดส่วนปัจจุบันอยู่ที่ 30% 

3. ช่องทางการขายผ่านสถาบันการเงิน และดีลเลอร์ รวมทั้งกลุ่มงานอื่น ๆ อีก 40%

 
นายดลเดชกล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยึดนโยบายเปิดกว้างในการเพิ่มจำนวนตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดารายใหม่ ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงยึดนโยบายดังกล่าว เพียงแต่ว่าจะคัดเลือกคุณสมบัติของผู้จะมาเป็นตัวแทนและนายหน้าบุคคลธรรมดามากขึ้น พร้อมกับจัดฝึกอบรมทักษะการขายมากขึ้นเพื่อให้มีความเป็นมืออาชีพ และเป็นการการันตีได้ว่า การเข้ามาเป็นตัวแทนหรือนายหน้าบุคคลธรรมดาของวิริยะประกันภัย เป็นอาชีพที่มีความมั่นคง พร้อมกับได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่า

สำหรับผลประกอบการในปี 2566 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 40,077 ล้านบาท แบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 35,633 ล้านบาท และ ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ 4,444 ล้านบาท และ มีกำไร อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท

ในส่วนการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) นายดลเดช กล่าวว่า บริษัทวิริยะประกันภัยยังพร้อมให้บริการรับประกันภัยรถ EV ต่อไป

 
นอกจากนี้ นายดลเดชยังกล่าวว่า ด้วยยุคสมัยเปลี่ยน บริษัทฯ จึงใช้คนรุ่นใหม่ ขึ้นมาสืบทอดการบริหารธุรกิจ โดยแต่งตั้งผู้บริหารคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนคนรุ่นเก่า เพื่อให้การบริการตอบรับโจทย์ในยุคปัจจุบัน พร้อมกับออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ที่สนองตอบความต้องการ  3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล 2. ประกันชั้น 1 PayLite จ่ายเท่าที่ขับ  3. ประกันอุบัติเหตุ ขับขี่สุขใจ V-Motor Add On

 
โดยนายวิชัยยุทธ เหลืองสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล ครึ่งปีแรกมีเบี้ยประกันปีแรกเข้ามาแล้วกว่า 10 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 20 ล้านบาท 

โดยผลิตภัณฑ์ในโครงการนี้จะครอบคลุมสินค้าทั้งประกันภัยรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันตะกาฟุลธุรกิจ และประกันโจรกรรมจักรยานยนต์และอุบัติเหตุ

“ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุลเป็นสินค้าของชาวมุสลิม โดยเป้าหมายของโครงการริเริ่มโดย นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ ที่ตั้งใจอยากประกันเข้าถึงคนไทยได้ทุกศาสนา และเป็นแบบประกันที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม โดยประกันภัยทั่วไปที่ขายกันผิดหลักศาสนาอิสลามอยู่ประมาณ 4 เรื่องหลัก ๆ คือ 1. ประกันภัยทั่วไปมีความไม่แน่นอนอยู่ว่าจะเกิดหรือไม่เกิดเหตุ 2. ประกันภัยทั่วไปอาจจะมีลักษณะก่ำกึ่งคล้ายเสี่ยงโชค 3. เรื่องอัตราดอกเบี้ย เป็นสิ่งที่ผิดตามศาสนาอิสลาม และ 4.การลงทุนได้ทุกธุรกิจ แต่ตามหลักศาสนาอิสลาม จะไม่ลงทุนในธุรกิจสุราและธุรกิจเกี่ยวกับเนื้อสุกร จึงออกผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ โดยมีคณะกรรมการชะรีอะฮ์ ช่วยคิดเพื่อให้ดำเนินการได้ถูกต้องที่สุด

 
ด้าน นางสาวกัญญา สนุทรวร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิทัลและช่องทางพิเศษ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับประกันชั้น 1 PayLite จ่ายเท่าที่ขับ เป็นสินค้าที่เพิ่งออกมาใหม่ อาจจะยังไม่ได้วางเป้าหมายเบี้ยประกัน

โดยความพิเศษของประกันตัวนี้ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ลูกค้าจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนคำนึงถึงค่าใช้จ่ายมากขึ้น หรือไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปลี่ยนจากการเข้าออฟฟิศทุกวันมาเป็นทำงานที่บ้าน (WFH) หรือไฮบริด หรือคนที่อาศัยคอนโดมิเนียมตามเส้นรถไฟฟ้าที่เบื่อรถติด จะตอบโจทย์อย่างมาก เพราะเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 4,850 บาท โดยจ่ายเพิ่มตามระยะที่ใช้จริง เพียงกิโลเมตรละ 70 สตางค์ แต่ได้ความคุ้มครองของประกันชั้น 1 ในมาตรฐานของวิริยะประกันภัย

 
ส่วน นางสาวจิราวรรณ อิ่มสิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด NON-MOTOR ด้านส่วนบุคคล บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับประกันอุบัติเหตุ ขับขี่สุขใจ V-Motor Add On รถหยุดพักซ่อมแต่ไม่พักการเดินทาง เป็นประกันที่คุ้มครองกรณีรถเกิดต้องนำเข้าซ่อม

ไม่ว่าจะเป็นซ่อมอู่หรือซ่อมห้าง ซ่อมตั้งแต่ 12 ชั่วโมงขึ้นไป รับเงินชดเชยค่าเดินทางสูงสุด 3,000 บาทต่อครั้ง (ปีหนึ่งเบิกได้สูงสุดถึง 5 ครั้ง) ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด กรณีรถชนรถ ทั้งนี้ค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นแค่ 500 บาท/ปี โดยวางเป้าหมายเบี้ยในปีแรก 100 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกมีเบี้ยรับแล้วกว่า 50 ล้านบาท

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ก.ค. 2567 เวลา : 10:34:26
09-07-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 9, 2025, 12:06 am