มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของอลิอันซ์ อยุธยา เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568 นี้ จะเดินหน้าธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ One Allianz Ayudhya ด้วยการผสานความแข็งแกร่งของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย เพื่อให้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันภัยที่ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมในธุรกิจประกันชีวิต เติบโต 10% ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท และธุรกิจประกันภัย เติบโต 12% เบี้ยประกันภัยรับรวมแตะ 1.2 หมื่นล้านบาท
โดย อลิอันซ์ อยุธยา จะเป็นผู้ให้บริการด้านประกันภัยแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิต สุขภาพ รถยนต์ ทรัพย์สิน ธุรกิจ SME การเดินทาง และประกันภัยเชิงพาณิชย์ ซึ่งลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้นผ่านกลยุทธ์การขายต่อเนื่อง (upsell) และการขายผลิตภัณฑ์เสริม (cross-sell) และด้วยโครงสร้างที่ผสานความร่วมมือระหว่างหน่วยธุรกิจต่างๆ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถให้บริการที่ไร้รอยต่อ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและพันธมิตรมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน อาทิ ในธุรกิจประกันสุขภาพ โดยมีการพัฒนาระบบการดูแลลูกค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน, ก่อนเข้ารับการรักษา ช่วงระหว่างการรักษา จนถึงดูแลฟื้นฟูหลังการรักษาพยาบาล โดยปัจจุบัน อลิอันซ์ อยุธยา มีเครือข่ายโรงพยาบาลมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังใช้ความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้ให้บริการประกันสุขภาพอันดับ 2 ของประเทศ เพื่อขยายตลาดและตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะบริษัทประกันภัยที่เข้าใจและพร้อมดูแลลูกค้าอย่างครบวงจรในประเทศไทย
มร.โทมัส วิลสัน กล่าวต่อไปว่า ในปี 2568 อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จะเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตผ่านกลยุทธ์การพัฒนาเครือข่ายตัวแทนและการขยายความร่วมมือช่องทางธนาคารอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนและคุณภาพของตัวแทนมืออาชีพ ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพแบบเข้มข้น เพื่อสร้างเครือข่ายตัวแทนที่แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในตลาดผ่านโปรแกรมการแข่งขันและฝึกอบรมต่างๆ นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของตัวแทนระดับท็อป ผ่านโครงการ Elite โครงการ Blue Star และโครงการ Blue Star X ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ เพื่อช่วยสร้างเครือข่ายผู้นำที่แข็งแกร่งในองค์กร ทั้งหมดนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพของเครือข่ายตัวแทนให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
“เรากำลังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งกับพันธมิตรช่องทางธนาคารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางนี้ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจร รองรับทั้งการออม การลงทุน และการคุ้มครองสุขภาพ พร้อมพัฒนานวัตกรรมดิจิทัล ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกแผนประกัน จัดการกรมธรรม์ และเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นว่าการเสริมความแข็งแกร่งของทั้งสองช่องทางนี้ จะช่วยให้เราสามารถขยายการเข้าถึงลูกค้าและสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2568”มร.โทมัส วิลสัน กล่าว
มร. โทมัส วิลสัน กล่าวต่อถึงผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา ของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) ว่า การเติบโตเป็นไปอย่างแข็งแกร่งเหนือตลาดในทุกช่องทาง โดยสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) เติบโต 8% สูงกว่าตลาดที่เติบโต 3.23% เบี้ยแตะ 3.93 หมื่นล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้น 14% (ตลาดเติบโต 3.28%) แตะ 8.4 พันล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของธุรกิจประกันชีวิต แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะลอตัว การเติบโตดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากช่องทางตัวแทนที่ขยายตัว 17% (ตลาดเติบโต 6%) แตะ 3.8 พันล้านบาท และช่องทางธนาคารที่เติบโตถึง 27% (ตลาดเติบโต 12%) แตะ 3.1 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายการขายหลักของบริษัท ซึ่งสามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย (AAGI) เปิดเผยว่า ในปี 2568 คาดธุรกิจประกันภัยจะเติบโต 12% และ เบี้ยประกันภัยรับรวมแตะ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะขยายขีดความสามารถด้วยกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน
1. การกระจายพอร์ตผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งขยายโอกาสธุรกิจที่มากไปกว่าประกันรถยนต์ ซึ่งจะเน้นไปที่ประกันสุขภาพ การคุ้มครองความเสี่ยงธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) และ การคุ้มครองบ้านและทรัพย์สินอื่นๆ โดยเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตสูง พร้อมเพิ่มโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจรายย่อยและองค์กร
2. การเสริมความแข็งแกร่งของช่องทางการจัดจำหน่าย โดยมุ่งเสริมศักยภาพของทั้งโบรกเกอร์ และตัวแทนประกันรถยนต์เดิมให้มีความสามารถแนะนำประกันภัยชนิดอื่นๆ ให้กับลูกค้าได้ด้วย เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุม และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ขยายธุรกิจประกันภัยเชิงพาณิชย์ Allianz Commercial ซึ่งจะช่วยให้สามารถให้บริการประกันภัยที่ครอบคลุมสำหรับภาคธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มองค์กร โดยเฉพาะในกลุ่มประกันภัยทรัพย์สิน วิศวกรรม การขนส่ง และ ความรับผิดทางกฎหมาย จึงเชื่อว่า การเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และ ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดประกันภัยไทยในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย มีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่ตลาดเติบโตเพียง 0.5% ยอดเบี้ยแตะ 1.09 หมื่นล้านบาท ผลมาจากการขับเคลื่อนด้วยประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ (A&H) ที่เติบโตสูงถึง 9% (ตลาดเติบโต 1.2%) แตะ 3.9 พันล้านบาท ขณะที่ ประกันภัยรถยนต์ เติบโต 4% (ตลาด ติดลบ 0.2%) แตะ 3.4 พันล้านบาท ประกันวินาศภัยอื่น ๆ หรือ Non Mortor เติบโต 7% (ตลาดเติบโต 0.6%) แตะ 3.6 พันล้านบาท
มร. โทมัส วิลสัน กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแล้ว อลิอันซ์ อยุธยา ยังภาคภูมิใจในการอยู่เคียงข้างลูกค้าเผชิญหน้ากับความเสี่ยงทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ผ่านมาตรการช่วยเหลือและบริการเร่งด่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการซ่อมแซมบ้าน การให้บริการยกรถในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงการสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ อลิอันซ์ อยุธยา ยังมีส่วนร่วมในการระดมทุนและบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ค่ารักษาพยาบาลในไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังเป็นความท้าทายสำคัญที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของประกันสุขภาพของไทย นำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในเงื่อนไขผลิตภัณฑ์แบบ Co-Payment ที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าของอลิอันซ์ อยุธยา
อนึ่ง กลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นหลัก ของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก ให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของโลก โดยมีผลประกอบการปี 2567 เติบโต มีมูลค่าธุรกิจรวม เพิ่มขึ้น 11.2% แตะระดับ 1.8 แสนล้านยูโร เมื่อปรับมูลค่าจากอัตราแลกเปลี่ยนและการควบรวมกิจการ โดยกลุ่มธุรกิจ ประกันชีวิตและสุขภาพ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต ควบคู่ไปกับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจประกันวินาศภัย ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานแตะระดับ 1.6 หมื่นล้านยูโร (12 เดือนปี 2023: 1.47 หมื่นล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 8.7% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนเงินกองทุน Solvency II ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 209% ณ สิ้นปี 2024
ข่าวเด่น