การค้า-อุตสาหกรรม
ก่อนถึงฤดูกาลส่งงบการเงินปี 67 นิติบุคคลต้องเช็ค 'สถานะคงอยู่' ของผู้ทำบัญชีก่อน! ตัดจบปัญหาส่งงบการเงินบกพร่อง และมีโทษทางกฎหมายตามมา


 
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชวน ‘นิติบุคคล’ ตรวจสอบสถานะ ‘ผู้ทำบัญชี’ ให้ดี โดยต้องมีสถานะ ‘คงอยู่’ เท่านั้นถึงจะสามารถจัดทำบัญชีได้ หากระบบ DBD e-Filing ขึ้นข้อมูลของผู้ทำบัญชีว่า ขาดคุณสมบัติ (ขาดการต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี), ยกเลิกการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชี, พักการขึ้นทะเบียน/สมาชิก, เพิกถอนการขึ้นทะเบียน/สมาชิก และถึงแก่กรรม นิติบุคคลต้องรีบติดต่อผู้ทำบัญชีให้เช็คสถานะตนเอง และหากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย  ทั้งนิติบุคคลและผู้ทำบัญชี รวมถึงควรตรวจสอบการแจ้งรายชื่อนิติบุคคลของผู้ทำบัญชีเพื่อเช็คให้ชัวร์ว่าทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้ถึงการทำบัญชีร่วมกัน และป้องกันความเสียหายต่อธุรกิจจากการส่งงบการเงินบกพร่อง

นางอรมน  ทรัพย์ทวีธรรม  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาที่นิติบุคคลนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งปีนี้มี   นิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และต้องนำส่งงบการเงินจำนวน 867,911 ราย โดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินผ่านระบบ e-Filing   คิดเป็น 99.8% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบแล้ว (จำนวน 69,508 ราย) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของนิติบุคคลที่เข้าถึงเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกิจ เพียงกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วนและกดส่งได้ทันที

 
อธิบดี กล่าวต่อว่า “แม้การส่งงบการเงินจะง่ายมากขึ้น แต่กรมฯ ก็ขอให้นิติบุคคลตรวจสอบสถานะของผู้ทำบัญชี ให้ละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความถูกต้องของข้อมูล ลดความผิดพลาดต่างๆ ของงบการเงิน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาปัญหาหนึ่งที่กรมฯ พบเจอจากเอกสารแบบ ส.บช.3 ที่ใช้ประกอบการส่งงบการเงิน ซึ่งนิติบุคคลต้องระบุชื่อผู้ทำบัญชีให้ชัดเจนคือ สถานะของผู้ทำบัญชีที่แจ้งมาไม่ตรงตามปัจจุบัน โดย สถานะที่สามารถจัดทำบัญชีได้จะต้องปรากฏว่า ‘คงอยู่’ เท่านั้น แต่หากผู้ทำบัญชีขึ้น 5 สถานะดังนี้นิติบุคคลจะต้องดำเนินการแจ้งผู้ทำบัญชีให้แก้ไขก่อนยื่นงบการเงิน ได้แก่ 1) ขาดคุณสมบัติ เป็นการขาดต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี กรณีต่ออายุสมาชิกแล้ว ให้ผู้ทำบัญชีเข้าระบบ e-Accountant เพื่ออัพเดทสถานะของการเป็นสมาชิกสภาฯ และกรณีที่ยังไม่ได้ต่ออายุสมาชิกสภาฯ ให้ผู้ทำบัญชีรีบดำเนินการต่ออายุสมาชิกให้เรียบร้อย 2) ยกเลิกการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชี คือ ผู้ทำบัญชีได้ยกเลิกการเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว 3) พักการขึ้นทะเบียน/สมาชิก ผู้ทำบัญชีอยู่ระหว่างถูกลงโทษพักการประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ 4) เพิกถอนการขึ้นทะเบียน/สมาชิก ผู้ทำบัญชีถูกลงโทษห้ามประกอบวิชาชีพทำบัญชีจากคณะกรรมการจรรยาบรรณ และ 5) ถึงแก่กรรม

 
สำหรับโทษทางกฎหมายตามพ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 นิติบุคคลในฐานะเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี หากส่งงบการเงินโดยที่ผู้ทำบัญชีไม่อยู่ในสถานะคงอยู่ อาจต้องได้รับโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ทำบัญชีจะได้รับโทษตามพ.ร.บ.วิชาชีพบัญชีพ.ศ. 2547 กรณีประกอบวิชาชีพเป็นผู้ทำบัญชีโดยไม่เป็นสมาชิกสภาฯ มีโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีผู้ทำบัญชีที่ฝ่าฝืนประกอบวิชาชีพระหว่างการถูกลงโทษพักหรือเพิกถอนการขึ้นทะเบียน/สมาชิก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบไปถึงการแจ้งรายชื่อนิติบุคคลของผู้ทำบัญชี หากผู้ทำบัญชียังไม่ได้แจ้งเป็นผู้ทำบัญชีของธุรกิจที่กำลังนำส่งงบการเงิน ระบบ DBD e-Filing จะแจ้งข้อความเตือนขึ้นมา โดยขอให้ผู้ทำบัญชีดำเนินการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน ทั้งนี้ นิติบุคคลสามารถตรวจสอบการแจ้งฯ ได้จากเว็บไซต์ www.dbd.go.th >> บริการออนไลน์ >> ผู้ทำบัญชี >> ตรวจค้นข้อมูลผู้ทำบัญชีของนิติบุคคล และระบบจะให้กรอกเลขนิติบุคคล จากนั้นจะปรากฏรายชื่อของผู้ทำบัญชีขึ้นมา กรณีผู้ทำบัญชีจะตรวจสอบรายชื่อธุรกิจที่แจ้งรับทำบัญชีสามารถเข้าระบบ e-Accountant เลือกข้อมูลผู้ทำบัญชี >> การแจ้งทำบัญชี หากผู้ทำบัญชีไม่แจ้งรายชื่อนิติบุคคลที่รับทำบัญชี มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายงานผู้ทำบัญชี กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4395 สายด่วน 1570 อีเมล accountant3582@dbd.go.th หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th

#SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 เม.ย. 2568 เวลา : 12:07:01
20-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 20, 2025, 12:15 pm