(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ค. เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับระดับการผลิตในเดือน มิ.ย
(-) มาตรการเก็บภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าอาจทำให้เกิดสงครามการค้าโลกที่รุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย เกิดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลง อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันก๊าซ และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่น จะได้รับยกเว้นภาษีศุลกากรใหม่
(+) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับลดลง 5,000 ราย แตะระดับ 219,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวงความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ อาจลดลง เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้เบนซิน หลังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการประกาศเก็บภาษีนำเข้าชุดใหม่ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 เม.ย. ปรับลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 15.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันเครื่องบินและดีเซลที่ท่าเรือฟูไจราห์ปรับขึ้น 1.06 ล้านบาร์เรล หรือ 53% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้สต็อกแตะที่ระดับ 3.05 ล้านลาร์เรล นอกจากนั้น ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเอเชียยังคงอ่อนแอและคาดว่าจะยังคงซบเซาในเดือน เม.ย. และ พ.ค.
ข่าวเด่น