(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลงกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล หลังตลาดจับตานโยบายการขึ้นกำแพงภาษีของประธานาธิปดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศจีน โดยล่าสุดทรัมป์ได้เพิ่มกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจีนอยู่ที่ระดับ 145% จากก่อนหน้าที่ระดับ 125% ขณะที่จีนได้ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ตอบโต้อยู่ที่ระดับ 84% ทั้งนี้ตลาดคาดว่าการเพิ่มกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ต่อจีนจะทำให้จีนนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ ลดน้อยลง ส่งผลให้สต็อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ อาจปรับเพิ่มขึ้น
(-) สหรัฐฯ ส่งออกน้ำมันดิบไปยังจีน เดือน มี.ค. 68 ลดลงสู่ระดับ 0.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ระดับ 0.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
(-) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เติบโตอุปสงค์น้ำมันสหรัฐฯ ปี 68 อยู่ที่ระดับ 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากผลของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกที่อ่อนแอลง
(+) อย่างไรก็ตาม ท่อส่งน้ำมันจากแคนาคา ไปยังสหรัฐฯ ยังคงปิดทำการ หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลที่รัฐ North Dakota เมื่อวันที่พุธ ที่ 9 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบตึงตัวมากขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อคน้ำมันเบนซินสิงค์โปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 เม.ย. 68 ปรับเพิ่ม 0.275 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 15.97 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อคน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 เม.ย. 68 ปรับลดสู่ระดับ 235.98 ล้านบาร์เรล จากระดับ 237.58 ล้านบาร์เรล ขณะที่อุปสงค์น้ำมันเบนซินอินเดียเดือน มี.ค. 68 ปรับเพิ่ม 10.66% เทียบกับเดือน ก.พ. 68
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อคน้ำมันดีเซลสิงค์โปร์ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 เม.ย. 68 ปรับเพิ่ม 0.169 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 9.35 ล้านบาร์เรลต่อวันอย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันดีเซลอินเดียเดือน มี.ค. 68 ปรับเพิ่ม 8.99% เทียบกับเดือน ก.พ. 68 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกหลังจากปรับลดอย่างต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน
ข่าวเด่น