เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ "เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 7 เดือนครึ่ง แต่ตลาดหุ้นไทยยังปรับลงจากสัปดาห์ก่อน แม้ต่างชาติซื้อสุทธิ"


สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท


· เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนครึ่งที่ 32.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามการฟื้นตัวของราคาทองคำตลาดโลก

เงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวกลับมาของราคาทองคำในตลาดโลกในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดีลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าอื่นๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และเงินหยวน ขณะที่ ประเด็นเรื่องการปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody’s มาอยู่ที่ Aa1 ยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันเงินดอลลาร์ฯ อย่างต่อเนื่อง สวนทางเงินบาทที่มีปัจจัยบวกหนุนตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์จากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 ของไทยที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด
 
 


 
เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าเกือบตลอดสัปดาห์ โดยแข็งค่าผ่านแนว 33.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนครึ่งที่ 32.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของฐานะการคลังและปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ หลังมีความพยายามเดินหน้าร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐฯ ซึ่ง ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์พยายามผลักดันให้ผ่านสภาคองเกรส

· ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.24 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 พ.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 19-23 พ.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 4,239 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 16,491 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 16,994 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 503 ล้านบาท)

· สัปดาห์ระหว่างวันที่ 26-30 พ.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.10-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนเม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 (Prelim.) บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 6-7 พ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้า รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ อาทิ อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของญี่ปุ่น และข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ของจีน

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

· ดัชนีหุ้นไทยยังปิดลบต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง แม้สถานะนักลงทุนต่างชาติจะอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ

ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงต้นสัปดาห์จากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย (แม้สศช. จะรายงานว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 ของไทยขยายตัวได้ 3.1% YoY แต่ก็ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของทั้งปี 2568 ลงมาที่ 1.8%) ก่อนจะขยับขึ้นช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากตลาดยังคงมีความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีประเด็นกดดันเพิ่มเติมจากการเลื่อนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลวอลเล็ต ประกอบกับมีแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ นอกจากนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลงในภาพรวมตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลว่าร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่ของสหรัฐฯ จะทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นก็มีส่วนกดดันบรรยากาศตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค
 
 


 
· ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,176.36 จุด ลดลง 1.62% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 40,766.85 ล้านบาท ลดลง 7.61% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.13% มาปิดที่ระดับ 245.27 จุด

· สัปดาห์ถัดไป (26-30 พ.ค. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,165 และ 1,140 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,185 และ 1,200 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟด ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนเม.ย. บันทึกประชุมเฟด ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 (ครั้งที่ 2) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ของจีน ตลอดจนยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ของญี่ปุ่น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 พ.ค. 2568 เวลา : 20:06:24
17-06-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 17, 2025, 3:23 am