เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "ตราสารหนี้ ESG สหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว จากแรงหนุนการลงทุนทางการเงิน"


จีน
ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG จีนอยู่ที่ 3.02 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าตราสารหนี้ออกใหม่ในเดือน พ.ค. 2025 ชะลอลงอยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลง 12% YoY) นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในปี 2025 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเป็นการหดตัวเพียงในระยะสั้นเนื่องจากตลาดตราสารหนี้ ESG จีนยังอยู่ในทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง

สหรัฐฯ
ตลาดตราสารหนี้ ESG สหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวหลังหดตัวรุนแรงในเดือนก่อน โดยยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG อยู่ที่ 279.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 278.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมูลค่าตราสารหนี้ออกใหม่ที่เร่งขึ้น ในเดือน พ.ค. 2025 มียอดออกใหม่สูงสุดตั้งแต่ต้นปีนี้ ยอดตราสารหนี้ ESG ออกใหม่เร่งขึ้นเป็น 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก่อน ทั้งนี้ ผู้ออกตราสารหนี้ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงิน คาดว่าเพื่อเป็นการลงทุนมากกว่าเป็นการระดมทุนสำหรับโครงการ ESG

ไทย
ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ไทยกลับมาขยายตัว จากมูลค่าออกตราสารหนี้ใหม่ 0.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) WHA และ MINOR เพื่อชำระคืนหนี้เดิม (roll-over) เป็นสำคัญ ส่งผลให้ยอดคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 25.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2025 ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ Thailand Taxonomy Phase 2 เพิ่มความครอบคลุมไปยังภาคเกษตร อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และการจัดการของเสียนับเป็นการช่วยจัดประเภทกิจกรรม ESG เพื่อลดความเสี่ยง Greenwashing และช่วยกระตุ้นตลาดการเงินยั่งยืนในประเทศ

แนวโน้มในระยะข้างหน้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในระยะข้างหน้า ตลาดตราสารหนี้ ESG จีนและไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ จะฟื้นตัวบ้าง

จีน: ขยายตัวสูงและจะแซงหน้าสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง จากความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนต่อหน่วย GDP ประมาณ 18% ภายในปี 2025 และมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดภายในปี 2030

 
สหรัฐฯ
ตลาดตราสารหนี้ ESG สหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวหลังหดตัวรุนแรงในเดือนก่อน โดยยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG อยู่ที่ 279.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 278.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมูลค่าตราสารหนี้ออกใหม่ที่เร่งขึ้น ในเดือน พ.ค. 2025 มียอดออกใหม่สูงสุดตั้งแต่ต้นปีนี้ ยอดตราสารหนี้ ESG ออกใหม่เร่งขึ้นเป็น 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก่อน ทั้งนี้ ผู้ออกตราสารหนี้ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงิน คาดว่าเพื่อเป็นการลงทุนมากกว่าเป็นการระดมทุนสำหรับโครงการ ESG

 
ไทย
ยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ไทยกลับมาขยายตัว จากมูลค่าออกตราสารหนี้ใหม่ 0.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) WHA และ MINOR เพื่อชำระคืนหนี้เดิม (roll-over) เป็นสำคัญ ส่งผลให้ยอดคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 25.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2025 ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ Thailand Taxonomy Phase 2 เพิ่มความครอบคลุมไปยังภาคเกษตร อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และการจัดการของเสียนับเป็นการช่วยจัดประเภทกิจกรรม ESG เพื่อลดความเสี่ยง Greenwashing และช่วยกระตุ้นตลาดการเงินยั่งยืนในประเทศ

แนวโน้มในระยะข้างหน้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในระยะข้างหน้า ตลาดตราสารหนี้ ESG จีนและไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ จะฟื้นตัวบ้าง

จีน: ขยายตัวสูงและจะแซงหน้าสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง จากความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนต่อหน่วย GDP ประมาณ 18% ภายในปี 2025 และมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดภายในปี 2030

สหรัฐฯ: ฟื้นตัวบ้าง หลังเริ่มเห็นยอดตราสารหนี้ออกใหม่หดตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา

ไทย: ขยายตัวได้ หลังภาครัฐและเอกชนยืนยันที่จะปรับตัวสู่ ESG ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ

 
ราคา EU ETS และ UK ETS ณ 30 พ.ค. 2025 เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนก่อนอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มการเชื่อมโยงตลาด UK ETS กับ EU ETS โดยราคา EU ETS เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนก่อน 5.7% เป็น 79.9 USD/tCO2eq ด้านราคา UK ETS ปรับเพิ่ม 9.5% จากเดือนก่อน เป็น 69.9 USD/tCO2eq 

CBAM จะเริ่มบังคับเก็บภาษีคาร์บอนกับสินค้านำเข้าจากประเทศที่ไม่มีมาตรฐานการลดก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่า EU ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยการเชื่อมโยงระบบ ETS จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย จากการเปิดโอกาสให้บริษัทใช้ใบอนุญาตปล่อยก๊าซแบบเดียวกันทั้ง EU และ UK ส่งผลให้อุปสงค์ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 

อีกทั้ง ความไม่แน่นอนในรายละเอียดของการเชื่อมโยงตลาด ทำให้เกิดแรงซื้อเพื่อเก็งกำไร
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 มิ.ย. 2568 เวลา : 20:01:42
16-06-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 16, 2025, 9:56 am