เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ทดสอบ Low เดิม"


คาดตลาดแกว่งตัวผันผวนลง มีโอกาสลงทดสอบใกล้ Low เดิม 1056 หรือต่ำกว่า มีแนวรับที่ 1056/1050 และ 1030 ส่วนแนวต้านที่ 1080/1085 สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามอิหร่านและอิสราเอลเต็มรูปแบบ โจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่ง เพิ่มความเสี่ยงของการขยายตัวของสงคราม ติดตามการปิดช่องแคบฮอร์มุซว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนการเมืองในประเทศยังไม่ความชัดเจนยังกดดันตลาด

ประเด็นสำคัญ

• ปธน. ทรัมป์เผยสหรัฐฯ เริ่มปฏิบัติการทางทหารและประสบความสำเร็จในการโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน 3 เป้าหมาย และขู่จะโจมตีรุนแรงขึ้นหากอิหร่านไม่ยอมรับสันติภาพและหยุดวิจัยนิวเคลียร์ ทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยกระดับขึ้น มองจะกดดันสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนน้ำมันและทองคำมีแนวโน้มปรับขึ้น

• ตลท. ออกมาตรการชั่วคราวเพื่อรองรับความผันผวน SET และ mai ปรับ Ceiling/Floor ลงสู่กรอบ -15% และ +15% และ TFEX ถูกปรับให้สอดคล้องเช่นกัน ส่วนกรอบราคา Dynamic Price Brand เหลือ -5% และ +5% (จากกรอบ 10%) จากราคาซื้อขายล่าสุด มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. และคาดจะมีผลไม่เกินวันที่ 27 มิ.ย. นี้

• กบน. ลดอัตราสบทบกองทุนน้ำมันฯ เป็นครั้งที่ 4 ในเดือนนี้ ลดการเก็บเงินจากดีเซลอีก 0.65 บาท/ลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันฯ พลิกจ่ายพยุงดีเซล 0.35 บาท/ลิตร เพื่อรับมือสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกผันผวน มองเป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน

• สศค. เผยคลังติดตามสถานการณ์อิสราเอล-อิหร่านอย่างใกล้ชิดและกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมเพื่อรองรับหากความเสี่ยงลุกลาม จากสัปดาห์ก่อนบอร์ดกระตุ้น ศก. เห็นชอบโครงการกระตุ้น ศก. วงเงิน 1.15 แสนลบ. จากทั้งหมด 1.57 แสนลบ. คาดหนุน GDP 0.4-0.5% ติดตามการอนุมัติโดย ครม. ในวันอังคาร

• บอร์ดคัดเลือกผู้ว่าฯ ธปท. เผย 6 จาก 7 รายชื่อผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติและเตรียมสัมภาษณ์และเชิญแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 24 มิ.ย. นี้ บอร์ดจะสรุป 2-3 รายชื่อที่เหมาะสมก่อนวันที่ 2 ก.ค. และส่งให้ รมว. คลังพิจารณาก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมและการการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ ส่วนปัจจัยภายในติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองและความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้น ศก. ทั้งเที่ยวไทยคนละครึ่งและโครงการกระตุ้น ศก. 1.57 แสนลบ. อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่เป็นลักษณะของการทยอยสะสม กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ทั้งประเด็นตะวันออกกลาง, การค้าสหรัฐฯ, การเมืองในประเทศ และมาตรการกระตุ้น ศก. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำ โดยคาดผลการดำเนินงานจะสามารถต้านทานความผันผวนจากปัจจัยภายนอกได้ แนะนำ DIF BDMS BCH

2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรในช่วง 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT

3. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG

4. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น เลือก PTT PTTEP

DAILY TOP PICKS

PTT: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และราคาหุ้นปัจจุบันไม่แพง โดยซื้อขาย PBV 2568F ที่ระดับ 0.7 เท่า (-1.5 SD) และ PER ที่ระดับ 7.5 เท่าเทียบค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ PBV 1.3 เท่า และ PER 14.6 เท่า อีกทั้งปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตเด่น 44%YoY และให้ Div. Yield ปีนี้สูงราว 6-7% โดยวันนี้แนะนำซื้อที่ราคาไม่เกิน 31 บาท/หุ้น 

DIF: มองมีปัจจัยระยะสั้นจากการไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด แนวโน้มใน 2Q68 คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีสูงถึง 11% ในปี 2568 และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกใน 2H68 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นได้ 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 มิ.ย. 2568 เวลา : 11:54:31
12-07-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 12, 2025, 7:50 pm