
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การชุมนุมทางการเมือง ในสายตาคนไทย 2568” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,167 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2568 สรุปผล ได้ ดังนี้
1. ประชาชนเคยเข้าร่วมหรือมีแนวโน้มจะเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่
อันดับ 1 ไม่สนใจเข้าร่วมเลย 38.39%
อันดับ 2 ยังไม่เคย แต่สนใจจะเข้าร่วมในอนาคต 30.68%
อันดับ 3 สนใจแต่ไม่สามารถเข้าร่วมได้ 16.02%
อันดับ 4 เคยเข้าร่วม 14.91%
2. ประชาชนคิดว่า “การชุมนุมทางการเมือง” ในปัจจุบันมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศมากน้อยเพียงใด
อันดับ 1 ปานกลาง 48.93%
อันดับ 2 มาก 26.48%
อันดับ 3 น้อย 20.39%
อันดับ 4 ไม่มีเลย 4.20%
3. ประชาชนคิดว่า “จุดเด่น” จากการชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบันคืออะไร
อันดับ 1 สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน 55.28%
อันดับ 2 เป็นช่องทางแสดงออกของประชาชน 54.25%
อันดับ 3 สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาล 49.36%
4. ประชาชนคิดว่า “จุดด้อย” จากการชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบันคืออะไร
อันดับ 1 มีความเสี่ยงต่อความรุนแรง 48.16%
อันดับ 2 ทำลายเศรษฐกิจ 47.13%
อันดับ 3 ถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง 45.33%
5. เมื่อมีการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้น ประชาชนคาดหวังอะไร
อันดับ 1 การลาออกของผู้นำรัฐบาล 58.58%
อันดับ 2 การยุบสภา/เลือกตั้งใหม่ 57.03%
อันดับ 3 การเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้พูดได้แสดงความเห็น 37.62%
6. หากเกิดการรัฐประหารในสถานการณ์ปัจจุบัน ประชาชนคิดเห็นอย่างไร
อันดับ 1 ไม่เห็นด้วย เป็นการละเมิดระบอบประชาธิปไตย 42.50%
อันดับ 2 เห็นด้วย หากจะเป็นทางออกจากวิกฤติทางการเมือง 28.96%
อันดับ 3 ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง 16.80%
อันดับ 4 ไม่แน่ใจ/ไม่มีความเห็น 11.74%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การชุมนุมทางการเมือง ในสายตาคนไทย 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,167 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างไม่สนใจเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง ร้อยละ 38.39 โดยคิดว่าการชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบันมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศในระดับปานกลาง ร้อยละ 48.93 จุดเด่นคือสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ร้อยละ 55.28 จุดด้อยคือมีความเสี่ยงต่อความรุนแรง ร้อยละ 48.16 ทั้งนี้เมื่อมีการชุมนุมทางการเมืองก็คาดหวังว่าจะมีการลาออกของผู้นำรัฐบาล ร้อยละ 58.58 ในสถานการณ์ปัจจุบันหากเกิดรัฐประหารก็ไม่เห็นด้วย เป็นการละเมิดระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 42.50
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลสำรวจประชาชนมองว่าการชุมนุมเป็นสิทธิที่พึงมี แต่ไม่ได้เชื่อว่าเป็นทางออกที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้อย่างแท้จริง เนื่องจากที่ผ่านมามักตามมาด้วยผลเสียมากกว่าประโยชน์ของประชาชน แม้รัฐประหารเคยถูกมองว่าเป็นทางออกในบางช่วงเวลา แต่บทเรียนที่เจ็บปวดจากหลายครั้งหลายหน ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจนอกระบบอีกต่อไป
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533
ผู้ช่วยศาสตราจารย์กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของภาพสะท้อนการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 กิจกรรมการชุมนุมเกิดขึ้นเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจ ในนโยบายของรัฐบาลไทยต่อประเด็นความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา และท่าทีของนายกรัฐมนตรีไทย ต่อปัญหาดังกล่าว การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากซึ่งถือเป็นครั้งแรกในระยะเวลาหลายปีที่ ผ่านมา การมีส่วนร่วมทางการเมืองและการแสดงออกของประชาชนสอดคล้องกับผลสำรวจที่เชื่อว่าการแสดงออกทางการเมือง
ในรูปแบบดังกล่าวจะสามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง หรือการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ อันเป็นไปตามแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยและต้องไม่ใช้การรัฐประหารเป็นทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ข่าวเด่น