
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังทางการจีนเปิดเผยตัวเลขการเติบโต GDP ของไตรมาสที่ 2 เติบโต 5.2% จากปีก่อนหน้า แม้จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 5.1% แต่ยังคงชะลอตัวลงจากการเติบโตที่ 5.4% ในไตรมาสแรก ขณะที่ยอดค้าปลีกเติบโตในเดือนมิ.ย. 68 ชะลอตัวลงมาที่ 4.8% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.- ก.พ. 68 แสดงถึงอุปสงค์ในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ เป็นปัจจัยกดดันต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลก
(-) หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานประมาณนํ้ามันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 11 ก.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 0.84 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2 ล้านบาร์เรล
(-/+) ตลาดคลายความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังการคว่ำบาตรรัสเซียและคู่ค้า โดยสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอน โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศกำหนดเส้นตาย 50 วันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน ส่งผลให้ยังมีเวลาในการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรได้ ท่ามกลางความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียด
ข่าวเด่น