
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับการติดตามข่าวสารในภาวะวิกฤต” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,148 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1. เมื่อได้รับข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤต ประชาชนมักจะทำอย่างไร
อันดับ 1 ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง 75.61%
อันดับ 2 ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เตรียมตัวรับมือในกรณีฉุกเฉิน 52.44%
อันดับ 3 ไม่แชร์ข่าวต่อเพราะไม่แน่ใจในความจริง 35.37%
2. ในภาวะวิกฤตประชาชนให้ความเชื่อถือกับแหล่งข่าวประเภทใดมากที่สุด
อันดับ 1 หน่วยงานหลักของภาครัฐ ศูนย์ข้อมูลของรัฐ 76.83%
อันดับ 2 สำนักข่าว นักข่าวที่มีชื่อเสียง 50.61%
อันดับ 3 นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 23.78%
3. ในภาวะวิกฤต ประชาชนอยากให้ภาครัฐและสื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลแบบใดมากที่สุด
อันดับ 1 สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว ต่อเนื่อง 81.10%
อันดับ 2 แจ้งข้อควรปฏิบัติอย่างชัดเจน 72.56%
อันดับ 3 ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่เป็นทางการเกินไป 57.93%
4. ในกรณีน้ำท่วม ประชาชนอยากให้ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “เร่งดำเนินการ” ด้านใดมากที่สุด
อันดับ 1 จัดเตรียมพื้นที่พักพิงและเส้นทางอพยพ 78.66%
อันดับ 2 แจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างแม่นยำและทั่วถึง 76.22%
อันดับ 3 แจกจ่ายอาหาร น้ำ และของจำเป็นอย่างทั่วถึง 74.75%
5. ในกรณีไทย–กัมพูชา ประชาชนรู้สึกเป็นห่วงและกังวลเรื่องใดมากที่สุด
อันดับ 1 การบาดเจ็บและความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย 86.50%
อันดับ 2 โรงพยาบาล โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ 58.90%
อันดับ 3 การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารในสื่อและโซเชียลมีเดีย 55.83%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับการติดตามข่าวสารในภาวะวิกฤต” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,148 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2568 พบว่า เมื่อได้รับข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤตประชาชนจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง ร้อยละ 75.61 โดยจะเชื่อถือแหล่งข่าวจากหน่วยงานหลักของภาครัฐ ศูนย์ข้อมูลของรัฐมากที่สุด ร้อยละ 76.83 ทั้งนี้อยากให้ภาครัฐและสื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว และต่อเนื่อง ร้อยละ 81.10 กรณีน้ำท่วมอยากให้เร่งดำเนินการจัดเตรียมพื้นที่พักพิงและเส้นทางอพยพ ร้อยละ 78.66 ด้านกรณีไทย-กัมพูชาประชาชนรู้สึกเป็นห่วงและกังวลเรื่องการบาดเจ็บและความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ร้อยละ 86.50
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า คนไทยมีความตื่นตัวในการรับมือสถานการณ์วิกฤตด้วย “ข้อมูล” และ “สติ” โดยคาดหวังการสื่อสารที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือความขัดแย้งที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและความมั่นคงของประเทศ สิ่งที่ประชาชนต้องการไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลเร็ว แต่ต้อง “ถูกต้อง” และ “ปฏิบัติได้จริง” บทบาทของรัฐและสื่อจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นและนำพาสังคมให้ก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533
นายกฤษรินทร์ บุศรา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ในมุมมองของเยาวชนมองว่าการติดตามข่าวสารทุกวันนี้สามารถติดตามได้เร็วและเข้าถึงง่าย ข่าวปลอมจึงเกิดขึ้น ได้บ่อย จากผลสำรวจข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวต่างๆ ประชาชนชนยังให้ความสนใจความถูกต้องเป็นอันดับต้นๆ การเลือกติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆจากภาครัฐยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และต้องการให้ภาครัฐและภาคเอกชนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ที่รวดเร็วถูกต้อง นำไปวิเคราะห์เผยแพร่ต่อได้ ในเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ความรวดเร็วในการแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการอย่างที่สุด ในเรื่องความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดในตอนนี้ คือ การหยุดความขัดแย้งเพื่อลดการบาดเจ็บและความสูญเสียซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นให้ได้โดยเร็ว
นายกฤษรินทร์ บุศรา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
รองศาสตราจารย์ ดร.รุ่งภพ คงฤทธิ์ระจัน รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤตที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการทหารระหว่างประเทศ ถือเป็นข่าวสารที่ทำให้ประชาชนทั่วไปอ่อนไหวซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดพฤติกรรมการแสดงออกได้อย่างรวดเร็ว การตรวจสอบข้อมูลข่าวสารเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเป็นแนวปฏิบัติที่ดี แต่ในข้อเท็จจริงพบว่า การแพร่กระจายข่าวสารในรูปแบบต่างๆมีลักษณะเป็นชาตินิยมสูง มีการนำเสนอความเห็นแย้งกับฝ่ายตรงข้ามที่ประกอบไปด้วย ความเชื่อและข้อคิดเห็นบางประการที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นชาตินิยม ดังนั้น รัฐควรมีหน่วยงานกลางเพื่อสื่อสารกับประชาชนได้อย่างรวดเร็วและควรมีมาตรการ “ควบคุมการเผยแพร่ข่าวสารในช่วงวิกฤต” ถึงแม้จะนำไปสู่การละเมิดเสรีภาพบางประการ แต่การควบคุมข่าวสารที่ถูกต้องจะนำไปสู่การสนับสนุนให้เกิดข้อยุติได้ ดังนั้นรัฐควรมุ่งเน้นการควบคุมการเผยแพร่ข่าวสารจากกลุ่มคนที่มีบทบาทหรือมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของประชาชน
รองศาสตราจารย์ ดร.รุ่งภพ คงฤทธิ์ระจัน รองคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ข่าวเด่น