สทนช. ชี้ฤดูแล้งปีที่ผ่านมามีพื้นที่ประกาศภัยแล้งเพียง 2 จังหวัด พร้อมระดมความเห็นทุกภาคส่วนสะท้อนบทเรียน ร่วมกำหนดมาตรการรองรับฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (23 กันยายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมสัมมนาถอดบทเรียนการติดตามประเมินผลการบริหารจัดการน้ำและมาตรการรองรับในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/2568 โดยมีผู้แทนจาก 10 กระทรวง 32 หน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการลุ่มน้ำ เครือข่ายองค์กรผู้ใช้น้ำ นักวิชาการ ภาคประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
นายไพฑูรย์ กล่าวว่า หลายพื้นที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งทวีความรุนแรงมากขึ้น การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งที่ต้องจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการและรองรับการขยายตัวของประชากร จึงถือเป็นภารกิจสำคัญที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง สำหรับฤดูแล้ง ปี 2567/2568 สทนช. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กรอบปฏิทินที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติให้ความเห็นชอบ โดยดำเนินการเป็น 3 ช่วง ตั้งแต่ช่วงเตรียมการก่อนเข้าสู่ฤดู โดยมีการคาดการณ์ปริมาณน้ำเพื่อกำหนดแผนการใช้น้ำและพื้นที่เพาะปลูกพืช คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งเพื่อเฝ้าระวังและสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดภัย พร้อมทั้งกำหนดมาตรการรองรับสถานการณ์เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ สำหรับใช้เป็นกรอบแนวทางในการเตรียมความพร้อมรับมือเชิงป้องกัน รวมถึงเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชน จากนั้นในช่วงระหว่างฤดู ได้มีการติดตาม วิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ควบคู่กับการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และมีการประเมินผลเมื่อเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดฤดู เพื่อนำไปใช้สำหรับปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต การประชุมสัมมนาในวันนี้จึงจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในฤดูแล้งที่ผ่านมา พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2568/2569 เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งในปีถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ตลอดช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร จำนวน 35 จังหวัด 93 อำเภอ 153 ตำบล โดยได้วางแนวทางแก้ไขปัญหาและมอบหมายหน่วยงานเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้น เช่น การฟื้นฟูระบบประปาหมู่บ้าน การสูบน้ำระยะไกล ไปจนถึงสนับสนุนท้องถิ่นในการพัฒนาทรัพยากรน้ำในระยะยาว เพื่อให้เกิดความมั่นคงน้ำในพื้นที่อย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตาม 8 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/2568 ตามที่ ครม. เห็นชอบ อย่างเคร่งครัด ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง ตามประกาศเขตให้ความช่วยเหลือ (ภัยแล้ง) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพียง 2 จังหวัด 13 อำเภอ 18 ตำบล ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์และกาญจนบุรี โดยเป็นปัญหาขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร ซึ่งจังหวัดและหน่วยงานได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างครอบคลุมในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ สทนช. จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากทุกภาคส่วนในการประชุมครั้งนี้ ไปต่อยอดพัฒนาการดำเนินงานในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด
ข่าวเด่น