วันนี้ (2 ต.ค. 68) ณ ห้องประชุมธารทิพย์ กรมชลประทาน สามเสน – กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) โดย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมแสดงเจตจำนงในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ยางพาราในภาครัฐ ระหว่าง ก.เกษตรฯ ก.ศึกษาธิการ ก.การท่องเที่ยวฯ ก.การพัฒนาสังคมฯ และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ ลงนามในครั้งนี้ ด้าน กยท. โดย ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม-แสดงเจตนารมณ์ผลักดันเพิ่มปริมาณใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มมูลค่ายางพารา สร้างเสถียรภาพราคาในระยะยาว สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรได้อย่างยั่งยืนพร้อม MOU กรมชลฯ ขับเคลื่อนงานวิจัย-ผลักดันนวัตกรรมยางพาราใช้กับงานด้านชลประทาน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ ลดการพึ่งพาการส่งออกยาง โดยการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเสถียรภาพราคายาง และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยาง ผ่านการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ยางพาราในรูปแบบต่างๆ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มุ่งผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐนำผลิตภัณฑ์ยางไปใช้ประโยชน์ ทั้งในกิจกรรมด้านเกษตร การศึกษา การท่องเที่ยว กีฬา การพัฒนาสังคม รวมถึงขยายการใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราในภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ยางพาราไทยถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เป็นรูปธรรม และมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
ด้าน ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. เผยว่า ภายใต้กรอบความร่วมมือในครั้งนี้ กยท. ทำหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนข้อมูลด้านการผลิต การแปรรูป และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ยางพารา รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ควบคู่กับการรับรองคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ กยท. จะเป็นหน่วยงานกลางประสานงานระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพเป็นรูปธรรม ตลอดจนจัดกิจกรรมและประชา สัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เห็นถึงคุณภาพและศักยภาพของผลิตภัณฑ์ยางพาราไทย นำไปสู่การเพิ่มมูลค่า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
ดร.เพิก กล่าวต่อไปว่า โอกาสนี้ กยท. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการโครงการเครือข่ายงานวิจัย ทดสอบ และวิเคราะห์คุณภาพ ร่วมกับกรมชลประทาน ถือเป็นการนำร่องผลักดันการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงาน จะดำเนินงานด้านการวิจัย วิเคราะห์คุณภาพน้ำ กำหนดคุณลักษณะและพัฒนาวัสดุที่มีส่วนผสมของยางพาราในการปฏิบัติงานด้านชลประทาน รวมถึงประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
“ทั้ง 2 ความร่วมมือนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนายางพาราทั้งระบบ ช่วยสร้างเสถียรภาพราคายางยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางพาราไทยให้เป็นที่ยอมรับ นำไปสู่การสร้างความมั่นคงด้านรายได้แก่พี่น้องชาวสวนยางได้อย่างยั่งยืน” ดร.เพิก กล่าวย้ำ
ข่าวเด่น