การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
สทนช. เผยประเทศไทยเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม "คณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 32" ณ จังหวัดเชียงราย


 
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทย โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS)  จะเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 32  และการประชุมระหว่างคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง และหุ้นส่วนการพัฒนา ครั้งที่ 30 ในระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน รีสอร์ท จังหวัดเชียงราย และเนื่องจากปี 2568 เป็นปีที่การลงนามข้อตกลงความร่วมมือแม่น้ำโขง โดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครบรอบ 30 ปี ประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพฯ จึงได้กำหนดให้มีการประชุมที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ลงนามข้อตกลงฯ เมื่อปี 2538 เพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำโขงของไทย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอย่างต่อเนื่อง คณะผู้แทนไทยนำโดย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง จะทำหน้าที่ประธานในการประชุมดังกล่าว และมีนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมประชุมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย

เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญระดับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ทั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยในการประชุม มีผู้แทนประเทศสมาชิก ผู้บริหารจากสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ผู้แทนจากประเทศหุ้นส่วนการพัฒนา (Development Partners) ประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partners) และผู้สังเกตการณ์จากหน่วยงานและองค์กรภาคีพันธมิตรเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบาย รับทราบรายงานการดำเนินงานของประเทศสมาชิก และทิศทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบความร่วมมือคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ให้เป็นไปตาม “ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำโขงที่ยั่งยืน พ.ศ. 2538 (1995 Mekong Agreement)” พร้อมให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง สาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ได้แก่การพิจารณาร่างปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในปี พ.ศ. 2569 และการพิจารณาแผนกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำโขงของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2569–2573 (MRC Strategic Plan 2026–2030) ที่จะเป็นแผนดำเนินงานของ MRC ใน 5 ปีข้างหน้า

“เนื่องจากการประชุมครั้งนี้ จะเป็นการกำหนดแผนการดำเนินงานของประเทศสมาชิกใน 5 ปีข้างหน้า จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะผลักดันให้มีการดำเนินงานด้านสำคัญ เช่น การพัฒนาแบบยั่งยืน การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการดำรงวิถีชีวิต ตลอดจนการร่วมกันแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ และยังเป็นเวทีเตรียมความพร้อมที่สำคัญของการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 5 (5th MRC Summit) ในปี พ.ศ. 2569 โดยเป็นโอกาสสำคัญในการที่ผู้นำประเทศสมาชิกจะได้ร่วมกันประกาศปฏิญญากรุงเทพฯ ที่จะเป็นทิศทางความร่วมมือเพื่อความมั่นคง ยั่งยืน และเป็นประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง” เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 พ.ย. 2568 เวลา : 15:51:30
20-11-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 20, 2025, 6:28 pm