เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "จับตาผลประชุม กนง."


 

คาด SET แกว่งตัวรอผลประชุม กนง. ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมค่อนข้างผสมผสาน โดยมีแรงหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาภาษีสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า รวมทั้งแรงเก็งกำไรจากการรายงานงบฯ 1Q68 แต่อาจมีแรงกดดันจาก Moody’s ปรับแนวโน้มเรตติ้งไทยลงสู่ Negative และราคาน้ำมันที่ร่วงลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ประเมินแนวรับที่ 1160-1150 จุด แนวต้านที่ 1180-1190 จุด

ประเด็นสำคัญ

• วันนี้ (14.00 น.) ติดตามการประชุมนโยบายการเงินครั้งที่ 2/2568 ซึ่งตลาดคาด กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps สู่ 1.75% และปรับลดประมาณ GDP ไทย โดยปัจจุบันตลาดประเมิน GDP ช่วง 1.4%-2.0%

• คืนนี้ติดตาม US GDP Adv. 1Q25 ตลาดคาดจะลดลงจาก +2.4% ใน 4Q24 เป็น +0.4% และเงินเฟ้อสหรัฐ PCE ตลาดคาดที่ 2.2% ซึ่งยังไม่รับรู้การขึ้นภาษีนำเข้านัก หากรับรู้เต็มที่คาดเงินเฟ้อจะทยอยเพิ่มขึ้น

• Moody's ปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของไทยลงสู่ Negative จากเดิม Stable สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการคลังจะอ่อนแอลงจากภาษีศุลการของสหรัฐ  อย่างไรก็ดียังคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ Baa1 ซึ่งเรามองระยะสั้นเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศลงทุนใน SET โดยจะส่งผลลบต่อกลุ่มธนาคารและหุ้นที่มีหนี้สูงจากต้นทุนการเงินที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

• ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์ มี.ค. ที่ 80,914 คัน ลดลง 15%YoY ส่วนยอดผลิตรถยนต์ลดลง 6% เหลือ 129,909 คัน ทำให้ปี 68 อาจไม่สามารถผลิตได้ตามเป้าที่ 1.5 ล้านคัน ซึ่งมองเป็นลบต่อกลุ่มยานยนต์ (AH SAT STANLY NYT) จึงยังแนะนำเลี่ยงการลงทุนในช่วงสั้น

• จำนวน นนท. ต่างชาติกลุ่มระยะสั้นเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน หนุนจากจีนและเกาหลีใต้ที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ขณะที่กลุ่มระยะไกลชะลอตัว ทำให้ปี 2568 มีจำนวน นทท. สะสม 11,841,911 คน เพิ่มขึ้น 0.12%YoY

• คณะทำงาน ปธน. ทรัมป์ เตรียมลดผลกระทบจากภาษีศุลกากรยานยนต์หลังกระทบห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ในสหรัฐฯ จากการเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อน

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความคาดหวังเชิงบวกที่มีต่อ 1) กนง. จะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps และ 2) ปธน. ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐจะมีท่าทีผ่อนคลายลงเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะกับจีน อีกทั้งยังมีความคืบหน้าการเจรจาการค้าอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี ความไม่ชัดเจนของนโยบายภาษีของสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจโลก อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการในช่วง 2Q68 ส่งผลให้บรรยากาศลงทุนจะยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”   

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET มีโอกาสปรับขึ้นจากความคาดหวังที่มีต่อการประชุมของ กนง. ซึ่งอาจมีมติปรับลดดอกเบี้ยในวันพุธนี้ และการมีท่าทีผ่อนคลายลงเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐของ ปธน. ทรัมป์ อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของนโบบายการค้าของสหรัฐยังทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก และ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว  ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 1Q68-2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ADVANC TRUE BTG CPF CPALL

2. หุ้น Undervalued ซึ่งซื้อขาย PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง แนะนำ GULF MTC CBG SPRC 

3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY  2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC BDMS CPALL PTT และ SET100: BCH BTG AP

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกหาก กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF), กลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI), กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มไฟฟ้า (GULF GPSC) และ 2) หุ้นปลอดภัยที่คาดต้านทานความเสี่ยงจากสงครามการค้าหากมีสัญญาณรุนแรงหรือยืดเยื้อมากขึ้น แนะนำ BCH CPALL GULF MTC OR และ TRUE

DAILY TOP PICKS

GULF: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก Bond Yield ที่ปรับลงและคาดเป็นหุ้นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SET ESG Ratings “AAA” ขณะที่ 1H68 คาดกำไรยังแข็งแกร่งจากขยายกำลังผลิต ส่วนการควบรวมกิจการกับ INTUCH ที่เสร็จสิ้นไปแล้วจะทำให้งบดุลบริษัทดีขึ้น เพิ่มศักยภาพในการกู้ยืม และช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยในระยะกลาง

DIF: มองเป็นหุ้นปลอดภัยภายใต้ตลาดผันผวนและคาดราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากคาดหวัง กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้  ขณะที่ 1Q68 คาดกำไรปกติจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีจุดเด่นจ่ายปันผลสูง โดยปี 2568 คาดมีเงินปันผลจ่ายราว 0.9 บาท/หน่วย คิดเป็น Div. Yield สูงราวปีละ 11%
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 เม.ย. 2568 เวลา : 12:32:07
01-05-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (30 เม.ย.68) บวก 26.14 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,197.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 เม.ย.68) บวก 10.40 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,181.52 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,290 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,330 เหรียญ

4. อุตุฯเตือน ภาคเหนือ "พายุฤดูร้อน" ฝนฟ้าคะนอง 60% ภาคอีสาน-ภาคกลาง 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคตะวันออก 30% ภาคใต้ 20%

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (29 เม.ย.68) พุ่ง 300.03 จุด รับความหวังเจรจาการค้าคืบหน้า

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 เม.ย.68) ร่วง 14.10 เหรียญ เหตุนักลงทุนเทขายทอง หลังเจรจาการค้าคืบหน้า

7. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (30 เม.ย. 68) บวก 0.48 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,171.46 จุด

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (30 เม.ย. 68) "คงที่" ทองรูปพรรณ ขายออก 53,200 บาท

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.30-33.60 บาท/ดอลลาร์

10. ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (30 เม.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 33.45 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (29 เม.ย.2568) บวก 11.59 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,171.12 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (29 เม.ย.68) ลบ 1.43 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,158.10 จุด

13. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,270 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,350 เหรียญ

14. ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคอีสาน 60% ภาคกลาง 40% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ 30%

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (28 เม.ย.68) พุ่ง 49.30 เหรียญ รับแรงซื้อเก็งกำไร

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 1, 2025, 1:28 pm